ปทส.-พยัคฆ์ไพร สำรวจที่ดิน แม่ธนาธร เบื้องต้นพบเอกสารสิทธิออกก่อนประกาศป่าสงวน

ปทส.-พยัคฆ์ไพร สำรวจที่ดิน แม่ธนาธร เบื้องต้นพบเอกสารสิทธิออกก่อนประกาศป่าสงวน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผู้กำกับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.5 บก.ปทส.) นายพัฒนะ ศิริมัย ผอ.ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาประชุมหารือความคืบหน้ากรณีที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่บ้านของนายสมบูรณ์ ไทยทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พร้อมลงตรวจสอบพื้นที่จริง ที่ดินแปลงดังกล่าว ตามที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งร้องทุกข์ ให้กรมป่าไม้ดำเนินการตามกฎหมาย เหมือนที่ดินของตนเองที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไปแล้วนั้น แม้ว่าปัจจุบันที่ดินบางส่วนของนางสมพรได้มีการส่งมอบคืนให้กับชุมชนดำเนินจัดทำเป็นป่าชุมชนแล้ว โดยมีเนื้อที่รวมทั้งหมดกว่า 3,098 ไร่เศษ รวม 77 แปลง

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า วันนี้มีชุดพยัคฆ์ไพรและกรมป่าไม้ โดยอธิบดีกรมป่าไม้สั่งการลงมา ตรวจสอบร่วมกับ บก.ปทส. และ ผอ.ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี ฝ่ายปกครองผู้ใหญ่บ้าน รวม 4 ฝ่าย ก่อนหน้านี้นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินการตรวจสอบที่ดินของนางสมพร หลังจากไปตรวจสอบที่ดินของเขาอย่างเดียว แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบใช้เวลานานพอสมควรแล้ว เพราะพื้นที่มีเอกสารสิทธิ เช่น นส.3 ก นส.3 ธรรมดา และมีโฉนดด้วย ซึ่งจะต้องมีนิติวิทยาศาสตร์หลายอย่าง อ่านแปลภาพถ่าย ดูระเบียบที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง คร่าวๆ พอมีเอกสารสิทธิออกมาต้องมาดูรายละเอียดว่าออกมาด้วยวิธีอะไร จนพบว่าเอกสารสิทธินี้ออกก่อนประกาศป่าสงวนแห่งชาติ โดยป่าสงวนออกปี พ.ศ.2527 แต่เอกสารสิทธิเหล่านี้ออกปี พ.ศ.2521 ก่อนที่มีเอกสารสิทธิตรงนี้จะมีแนวเขตป่าไม้ถาวร ซึ่งต้องเข้าใจว่าเขตป่าไม้ถาวรนั้นจะออกเอกสารสิทธิได้ มีระเบียบอยู่ ถ้ามี สค.1 ไม่เป็นไร แต่หากไม่มี สค.1 เป็นการเดินสำรวจเข้ามาในเขตป่าไม้ถาวรก็เป็นเอกสารสิทธิที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงต้องนำเรื่องทั้งหมดส่งให้กรมที่ดิน

 

“วันนี้เห็นคร่าวๆ แล้วว่า พื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ก็รอให้หน่วยงานทำหนังสือรับรองแนวเขตป่าไม้ถาวรอยู่แค่ไหนอย่างไร กรมพัฒนาที่ดินจะเอาสารบบมาดูว่า แต่ละแปลงนั้นออกด้วยวิธีอะไร โดยกรมที่ดินจะต้องส่งข้อมูลมาให้ ก็จะรู้ว่าออกเอกสารชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าไม่ชอบต้องส่งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนตามมาตรา 61 ต่อไป ที่ดินตรงนี้ก็จะกลับมาเป็นที่ดินของรัฐ กลับมาเป็นป่าสงวนที่ซ้อนทับกับเขตปฏิรูปที่ดินอยู่ และในส่วนนี้ที่เป็นป่าชุมชน หากชุมชนมีความต้องการให้เดินคู่ขนานไป วันไหนเพิกถอนตรงนี้ได้ ก็เพิ่มเติมไปเป็นป่าชุมชนได้ อยากให้ชุมชนเข้ามาดูแล เพราะวันนี้มี พ.ร.บ.ป่าชุมชนเข้ามา”

Advertisement

“บางจุดที่ดินยังมีชาวบ้านทำไร่มันสำปะหลังและปลูกสับปะรดอยู่ ถามว่าจะดำเนินคดีหรือไม่นั้น ก็ต้องคัดกรองคุณสมบัติ ให้อาศัยทำกินอยู่ในเขตป่าสงวนได้ มีการผ่อนปรนต่างๆ ทั้งเรื่อง ส.ป.ก.และอื่นๆ ซึ่งภาครัฐจะดูแล และไม่มีการดำเนินคดี จึงไม่อยากให้ประชาชนบริเวณนี้ตกใจ บางกลุ่มมีเอกสารสิทธิออกโดยมิชอบตรวจพบก็ต้องเพิกถอน เป็นขั้นตอนของการทำงาน ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปเยอะแล้ว โดยพื้นที่ นส.3 ก ประมาณกว่า 2,000 ไร่ สัญลักษณ์ในรูปภาพสีเขียว รวมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 3,000 ไร่ โดยนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกว่าซื้อมาจากโรงงานน้ำตาล โดย นส.3 ก ตำแหน่งจะไม่คลาดเคลื่อน จะมี นส.3 ธรรมดาที่เบี้ยวขยับได้นิดหน่อย ส่วนตัวโฉนดไม่มีปัญหา วันนี้จึงแบ่งออกมาเป็น 3 กอง กองที่ 1 แบ่งเป็นกว่า 2,000 ไร่ ให้ความสนใจมากสุด มีคืบหน้าไปมากแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ น่าจะออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ต้องเพิกถอนตามกฎหมาย ซึ่งจะรอให้กรมพัฒนาที่ดินตอบหนังสือกลับมา โดยให้ทางกรมที่ดินส่งสารบบที่ดินมาให้ ก็น่าจะฟันธงได้ จากนั้นก็เพิกถอนเอากลับมาเป็นสาธารณประโยชน์ให้ชุมชนดูแล ส่วนที่เหลือก็นำไปจัดสรรให้ประชาชนที่ยังขาดที่ดินทำกินอยู่”

“สำหรับหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่าจะออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น จะมีหลักฐานจากภาพถ่ายทางอากาศ และพื้นที่นี้ออกก่อนป่าสงวนแห่งชาติ แต่จะมีเส้นป่าไม้ถาวรฉบับที่ 85 ซึ่งประกาศไว้ปี 2512 ซึ่งถูกประกาศเป็นป่าถาวร โดยในระเบียบของการออก นส.3 ก แบบเดินสำรวจนั้น ถ้าไม่ได้มาจาก สค.1 นั้นจะห้ามเดินออกเข้าไปในเขตป่าไม้ ซึ่งจะมีเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงป่าไม้ถาวรด้วย ถ้าเข้าไปในเขตป่าไม้ถาวรแล้วไปออก นส.3 ก แบบนี้ก็เป็นเอกสารที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องเพิกถอนกลับมา แต่วันนี้ยังไม่ได้เพิกถอนก็จะยังมีผลตามกฎหมายอยู่ คงอีกไม่นานหากหน่วยงานตอบกลับมามีผลเอกสาร ผลอ่านแปลออกมาชัดเจนก็น่าจะส่งเรื่องให้กรมที่ดินได้โดยเร็ว”

นายชีวะภาพกล่าวว่า พื้นที่บางจุดเท่าที่เห็นมีการทำประโยชน์ปลูกต้นยูคาลิปตัส บางจุดกลายเป็นป่าคืนสภาพแล้ว คงต้องไปนำภาพตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 เริ่มตั้งแต่ปี 2497 2510 2538 จนถึงปัจจุบันประมาณ 5 ชั้นปี มาเปรียบเทียบ ให้เห็นชัดเจนว่ามีการทำประโยชน์หรือไม่ ปี 2521 มีการทำประโยชน์หรือไม่ ช่วงที่ออก นส.3 ตอนที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติตอนปี 2527 นั้น เชื่อว่าเจ้าหน้าที่เดินตรวจสอบละเอียด เพราะไม่ได้เป็นภูเขาสูงมากนัก ตอนประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ทำไมไม่เจอว่ามีเอกสารสิทธิเป็นพันไร่ ตามปกติถ้าไปพบเจอเอกสารสิทธิผืนใหญ่จะกันออก แต่กรณีนี้ไม่ปรากฏว่ามีการกันออก แสดงว่าขณะนั้นยังเป็นป่าอยู่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image