กอ.รมน.ภาค 4 แจงกรณี จนท.แชตจีบหญิงในศูนย์กักตัวรือเสาะ ตรวจสอบพบแอบอ้าง

กอ.รมน.ภาค 4 แจงกรณี จนท.แชตจีบหญิงในศูนย์กักตัวรือเสาะ ตรวจสอบพบแอบอ้าง

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน จากกรณีชายกล่าวอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร แชตคุยเชิงชู้สาวกับหญิงสาวผู้ถูกกักกันตัวในศูนย์กักตัว Local Quarantine ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ดังที่ปรากฏในสื่อโซเชียล จนกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันถึงความไม่เหมาะสมนั้น ล่าสุด พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสรุปได้ดังนี้

1.จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ที่ถูกคุกคามทางเพศเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากการทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเข้ารับการกักกันตัวภายในศูนย์กักกันตัว Local Quarantine ของทาง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในเฟสที่ 2 รอบที่ 3 ซึ่งมีจำนวนผู้ถูกกักกันตัว จำนวน 180 คน จนครบ 14 วัน ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับภูมิลำเนาของแต่ละคนตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข

2.สำหรับการสนทนาข้อความเชิงชู้สาวดังกล่าวพบว่าเป็นการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่น badoo โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า Staf และใช้รูปของ อส.ทพ.ปฐมพงศ์ พรหมศรี สังกัดกรมทหารพรานที่ 48 เป็นรูปโปรไฟล์ ทางหน่วยฯจึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จากผลการสอบสวนเจ้าตัวได้ให้การปฏิเสธ โดยชี้แจงว่าไม่เคยรู้จักและไม่ได้ใช้โปรแกรมดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์ผ่านทาง Apple Id พบว่าเจ้าตัวไม่เคยเข้าใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวจริง ซึ่งถ้ามีการใช้จริงในระบบจะยังคงบันทึกประวัติข้อมูลการใช้ดังกล่าวอยู่ ซึ่งล่าสุด อส.ทพ.ปฐมพงศ์ ผู้ถูกแอบอ้างได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อเป็นหลักฐานไว้แล้ว

3.แอพพลิเคชั่น badoo เป็นแอพพลิเคชั่นในลักษณะหาคู่ ซึ่งสามารถใช้รูปใครก็ได้มาเป็นรูปโปรไฟล์ เพื่อพูดคุยโดยไม่เห็นหน้า ไม่เหมือนลักษณะการแชตผ่าน video call ซึ่งจะเห็นคู่สนทนาว่าเป็นใคร จึงมักจะมีการแอบอ้างในลักษณะเช่นนี้อยู่เป็นประจำ

Advertisement

4.ทั้งนี้ ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รู้สึกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ถูกคุกคามเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ภายหลังหากมีการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกแล้วพบว่าผู้ที่ใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นกำลังพลของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ก็จะมีการลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาทหารขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายกวดขันวินัยกำลังพลมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ยุทธศาสตร์คนดีคัดเลือกผู้ที่มาปฏิบัติงาน และกฎเหล็ก 9 ข้อ โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว รวมไปถึงการปฏิบัติตนตามแบบธรรมเนียมและวินัยทหารอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอให้สังคมได้มีความมั่นใจว่าทางกองทัพภาคที่ 4 จะไม่ปกป้องผู้ที่กระทำความผิดในทุกกรณี และหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารกระทำความผิดหรือสร้างความเดือดร้อน ขอให้แจ้งทางหน่วยต้นสังกัดให้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และพิจารณาลงโทษตามความเหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายหนึ่งของ จ.นราธิวาส เปิดเผยข้อมูลในเชิงลึกกับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบหญิงสาวคนดังกล่าวทราบชื่อแล้วว่าเป็นใคร แต่ขอไม่เปิดเผย ให้ข้อมูลเพียงว่าเป็นคนทางเหนือและกลับมาจากประเทศมาเลเซียพร้อมเพื่อนๆ ที่เป็นทีมนวดจากภาคต่างๆ ที่ไม่ใช่คนทางนี้ แต่เท่าที่รู้ฝ่ายชายซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นใครได้คุยลักษณะเชิงชู้สาวกับผู้หญิงรวม 3 คน และคุยกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่มาเกิดเป็นประเด็นในเวลา 4 ทุ่มของวันที่ 8 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image