ป้าขโมยของ 11 ครั้ง น้ำตาซึมบอกไม่ได้ทำ ตำรวจต้องแจงความเสียหายก่อน
ป้าวัย 56 ปี ที่อยู่ในภาพวงจรปิดขโมยสินค้าในร้านค้า ออกมาแจงทั้งน้ำตา ไม่เคยขโมยของใคร หยิบของคิดเงิน กระป๋องเงินที่เข้าไปหยิบเพียงไปเอาปากกา ขณะตำรวจยังไม่รับแจ้งความ ผู้เสียหายต้องแจงมูลค่าทรัพย์สินก่อนจึงจะรับเป็นคดี
วันที่ 24 มิ.ย.63 กรณีนายปรัชญา สิ่วไธสง อายุ 22 ปี เจ้าของร้านขายของชำในตลาดสดเทศบาลละหานทราย โพสต์ภาพหญิงขโมยสินค้าภายในร้านหลายรายการตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.-6 มิ.ย.รวม 11 ครั้ง หลังจากเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ละหานทราย แต่ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามนางรุน แหวนแก้ว อายุ 56 ปี อยู่เลขที่ 111 หมู่ 9 บ้านโนนกลาง ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบุคคลในภาพจากกล้องวงจรปิด
โดยนางรุน เล่าว่า ตนมีอาชีพขายอาหารในหมู่บ้าน และจะไปซื้อสินค้ากับร้านนี้เป็นประจำ ทุกครั้งที่เลือกหยิบของก็จะเอามารวมกันเพื่อให้ร้านค้าคิดเงินทุกครั้งไม่เคยได้บิลจากผู้ขาย
การกล่าวหาดังกล่าวของร้านค้าถือว่ารุนแรงเกินไป เพราะตนไม่เคยขโมยของ ภาพที่เห็นก็เป็นการเอาสินค้ามารวมกัน ส่วนภาพที่ตนเดินไปเปิดกระป๋องเงิน เพียงแค่ไปเอาปากกาจะมาเขียนเบอร์โทรศัพท์ ไม่ได้เอาเงินแต่อย่างใด ยืนยันความบริสุทธิ์ และกล้าท้าสาบานได้
ขณะที่นายปรัชญา สิ่วไธสง อายุ 22 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า ร้านที่เปิดทำกันแบบครอบครัว ที่ผ่านมาจะกันเองกับลูกค้า ภาพในกล้องวงจรปิด น่าจะชัดเจนดีว่า เป็นการขโมยหรือไม่ขโมย หากยังปฏิเสธ ตนก็จะสู้ให้ศาลตัดสิน เพราะทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมานายปรัชญา พร้อมญาติ ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.มานพ ทองพลับพลา สารวัตร(สอบสวน)สภ.ละหานทราย อ.ละหานทราย เพื่อขอความคืบหน้าทางคดี
โดยสารวัตรสอบสวน ได้ชี้แจงให้กับผู้เสียหายว่า ให้ร้านค้าไปคำนวณค่าเสียหายมาให้ครบตามภาพในกล้องวงจรปิด เช่นผงชูรส กี่ห่อ ราคากี่บาท หรือสินค้าอื่นที่สูญหาย รวมกับเงินสดที่หายไปเป็นจำนวนเท่าไหร่ จึงจะสามารถรับเป็นคดีได้
