ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้บรรจุและแต่งตั้งบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 เข้ารับราชการเป็นพิเศษใน 13 สายงานไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นางกนกพร สุขสนิท ประธานภาคีลูกจ้างชั่วคราวของรัฐแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับนางสาวฐาปนีย์ พันธ์พหลเวช พนักงานเภสัชกรรม ในนามของชมรมลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข กับตัวแทนลูกจ้างชั่วคราว เพื่อออกมาร้องผ่านสื่อมวลชนขอความอนุเคราะห์ไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สืบเนื่องจากในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาโรคไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดเข้าสู่เมืองไทย ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ระดมบุคลากรทุกคนทำงานตามนโยบายของกระทรวงอย่างเต็มความสามารถ แต่มีบุคลากรกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข สายสนับสนุน ที่ไม่ได้รับการเยียวยาในด้านสวัสดิการใดใดทั้งสิ้น
นางกนกพรกล่าวว่า ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือ โดย 1) แก้ระเบียบการจ่ายเงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุข ข้อ 9 (4) โดยเพิ่มคำว่า ให้ผู้บริหารโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถจ่ายเงินบำรุงไห้แก่ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มได้ตามมติ ครม. โดยไม่ขัดต่อระเบียบนี้ 2) ขอให้ช่วยเหลือจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยให้แก่ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายสนับสนุน โดยไม่ขัดต่อระเบียบเงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุข 3) ขอให้คืนตำแหน่งลูกจ้างประจำกลับมาให้กระทรวง เพื่อให้แก่จัดสรรบรรจุลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายสนับสนุนโดยเร็ว และ 4) ควรให้ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายสนับสนุน ได้มีวันหยุดประจำปี เช่น วันแรงงาน เพราะแต่ละปีลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายสนับสนุนเหล่านี้ไม่เคยมีวันหยุด จึงขอเรียกร้องให้พิจารณาวันหยุด 1 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ ให้ลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายสนับสนุน สามารถหยุดงานในวันดังกล่าวได้โดยไม่มีการหักค่าแรง
นางกนกพรกล่าวเพิ่มเติมว่า การรวมตัวเรียกร้องขอความอนุเคราะห์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ เป็นเพียงเสียงส่วนหนึ่งของบรรดาลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายสนับสนุนทั่วประเทศ ที่ต้องการให้ทางกระทรวงฯได้เหลียวแลและเห็นใจกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังบ้าง เพราะทุกคนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย สุดกำลัง เพื่อให้บรรลุผลตามนโยบายของผู้บริหารโรงพยาบาล และพนักงานลูกจ้างบางส่วน เช่น คนงานเปล แผนกซักฟอก พนักงานผู้ช่วยเหลือคนไข้ ก็เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงติดเชื้อโควิด19 ได้ง่าย ไม่ต่างกับแพทย์และพยาบาล แต่ค่าตอบแทนเป็นค่าแรงขั้นต่ำเพียงวันละ 300 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งในหนึ่งเดือนจะถูกหักวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ออกไป จึงเหลือค่าแรงรายวันทำการเพียง 23 วันเท่านั้น ทำให้ได้เงินไม่ถึง 9,000 บาทในแต่ละเดือน
“อยากวิงอนให้ปรับฐานเงินค่าจ้างสำหรับลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ให้มีเงินเดือนขั้นต่ำ 9,000 บาททุกคน โดยไม่หักวันหยุด จึงวิงวอนขอความเห็นใจได้ปลดล็อกแก้ไขระเบียบ ให้ได้รับสวัสดิการเพิ่มตามสมควร เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน และเพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน” นางกนกพรกล่าว
