ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่าย อสม.77 จังหวัด แถลงข่าว บุกทวงสัญญานายกฯ 29 นี้ ขอเบี้ย 500บ.19 เดือน
ชมรมอสม.ประเทศไทย – เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเดอะเล็คกาซี่ ถ.งามวงศ์วาน 23 อ.เมือง จ.นนทบุรี นายจำรัส คำรอด ประธานชมรม อ.ส.ม.แห่งประเทศไทย และ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทยร่วมกับภาคีเครือข่าย อสม.77 จังหวัด ร่วมแถลงข่าวเรื่อง “การขอให้พิจารณาทบทวนการอนุมัติค่าตอบแทน ของ อ.ส.ม.ในงบประมาณเงินกู้ ตามพระราชบัญญัติเงินกู้ฉุกเฉิน”
จากกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหาร ขอใช้งบ พรก.กู้เงิน ในส่วนของกระทรวงฯ เพื่อสนับสนุนเป็นค่าตอบแทนอสม.คนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 19 เดือน แต่ต่อมามีข่าวว่าทางสภาพัฒน์และสังคมแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้งบฯ ขอตัดการช่วยเหลือจาก 19 เดือน เหลือ 7 เดือน สร้างความไม่สบายใจให้กับ อสม.ทั่วประเทศ
นายจำรัส กล่าวว่า ทางตนได้ฉันทามติจาก อสม.ทั่วประเทศ ให้มาสื่อสารกับสภาพัฒน์ฯว่า เราไม่กังวลเรื่องที่ท่านจะตัดงบเรา แต่เราอยากให้ท่านมาหารือกับเรา เพื่อฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ผ่านมา อสม.ทำอะไร ในการควบคุมโควิด-19 และเราต้องเสียสละอะไรบ้าง ท่านรู้หรือไม่ว่ามี อสม.เสียชีวิตขณะเดินทางไปตรวจคัดกรอง ท่านทราบหรือไม่ว่าอสม.ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง อุปกรณ์บางชิ้น ก็หลักหลายพันบาท ในหลายครั้งที่ต้องปฏิบัติภารกิจ และภารกิจจำนวนมาก เกิดขึ้นในช่วงเวลาดึก แต่เมื่อมีรายงานว่ามีคนนอกเข้ามาในพื้นที่ อสม.ต้องไปตรวจทันที
ขณะที่หลังปฏิบัติภารกิจ อสม.ต้องรู้สึกอย่างไร ที่ต้องแยกตัวจากครอบครัวครอบครัวเองก็รู้สึกวิตกกับงานที่ อสม. ปฏิบัติ
“สำหรับสภาพัฒน์ที่ทำงานในห้องแอร์ ท่านคงไม่รับทราบปัญหาของคนทำงานด่านหน้า เราจึงขอโอกาสอธิบาย เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน จะได้เห็นใจกันบ้าง” นายจำรัสกล่าว
ประธานชมรม อ.ส.ม.แห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ขณะที่ ในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 การทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง โดยเฉพาะการลงไปเคาะประตูบ้าน ตรวจเยี่ยม เฝ้าระวังโรคของคนในหมู่บ้าน พี่น้อง อสม. ทำงานกันมา 40 ปีแล้ว ยังไม่ถูกพูดถึงมากขนาดวันนี้ เปรียบเหมือนกับ ปิดทองหลังพระล้นออกมาข้างหน้าแล้ว คนเริ่มเห็นการทำงานของพี่น้อง อสม.ซึ่งมีความสำคัญกับงานของสาธารณสุขของไทยเป็นอย่างมาก
“ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขทำงาน และเสียงชื่นชมคือกำลังใจให้เราทำงานต่อไปได้ และโดยส่วนตัวเชื่อมั่นและมั่นใจว่า อสม. 1,040,000 คน รวมทั้ง กทม. อีก 15,000 คน มีใจ 100% ที่อยากจะทำงานเพื่อสังคม ประเทศชาติ ซึ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด ทุกคนทำงานไม่เคยบ่นย่อท้อพร้อมทำงานด้วยใจจิตอาสา” นายจำรัสกล่าว
ด้าน นายอมรินทร์ นิ่มนวล ประธานชมรม อสม.ภาคกลางกล่าวว่า ไม่ว่าสภาพัฒน์ จะเห็นคุณค่าของเราหรือไม่ เราก็จะทำงานต่อไป และไม่ว่าใคร จะไม่เห็นใจ อ.ส.ม.ก็พร้อมเป็นกำลังใจให้กันและกัน เรารู้ตัวเองดีว่าเรามีเกียรติในการทำงาน เป็นนักรบด่านหน้า ทำงานจริง ลุยลงพื้นที่จริง ซึ่งพวกนักรบห้องแอร์ ไม่มีทางเข้าใจ
ทั้งนี้ ในเวลา 07.30 น.วันที่ 29 กรกฎาคม ตัวแทน อสม.4 ภาค ทั่วประเทศ จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ. โดยหวังว่าเอกสารจะไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ท่านจะได้เข้าใจงาน และความทุ่มเทของ อสม.และให้เบี้ยเลี้ยงภัยที่เคยสัญญาไว้จำนวน 19 เดือน
