‘ตร.แปดริ้ว’ รวบขบวนการโจรกรรมรถรายใหญ่ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
ตำรวจสืบแปดริ้ว สนธิกำลัง 2 โรงพัก รวบขบวนการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รายใหญ่ ส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน วางโครงข่ายพร้อมดัดแปลงรถตู้ ขนย้ายเส้นทาง 2 จังหวัดทางภาคอีสานก่อนส่งข้ามทางแม่น้ำโขง ในราคาคันละ 20,000 บาท เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถที่กำลังรอขนย้ายได้รถยนต์ 4 คัน รถจักรยานยนต์ 16 คัน ผู้ต้องหา 10 คน
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่กองสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ท.ธีรพล จินดาหลวง ผู้ทรงคุณวุฒิพิศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ชุดจับกับกุมประกอบด้วยชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา, ชุดสืบสวนภูธรพนมสารคามและชุดสืบสวนภูธรบางปะกง ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ผู้ต้องหาจำนวน 10 ราย ของกลางที่กำลังรอขนย้าย เป็นรถยนต์จำนวน 4 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 16 คัน อะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมาก
พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า หลังมีชาวบ้านบ้านหนองยาว อ.พนมสารคาม ได้เข้ามาแจ้งความ รถจักรยานยนต์หายหลังจอดไว้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม ชุดสืบสวนได้ออกหาข่าว จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายประหยัด ประทุมวัน อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดนครพนม และ น.ส.วรรณา นาบำรุง อายุ 36 ปื ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา 2 สามีภรรยา ได้ร่วมกันก่อเหตุ จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอนุมัติหมายจับ จนสามารถจับกุมทั้ง 2 ได้
ก่อนทำการขยายผล จนสืบทราบว่า ขบวนการนี้จะนำรถที่ขโมยมา แบ่งขายออกเป็น 2 เส้นทาง โดยใช้รถตู้ และรถยนต์ปิคอัพปิดทึบ ดัดแปลงในการขนย้าย โดยเส้นทางแรกใช้เส้นทางจังหวัดนครพนม มีนายราเชนทร์ ชมพัด อายุ 29 ปี และ น.ส.วิมล พรรณสีหา อายุ 29 ปี 2 สามีภรรยา เป็นคนขนย้ายโดยส่งข้ามทางแม่น้ำโขง และติดต่อซื้อขายผ่านทาง แอฟฟิเคชั่น แมสเซนเจอร์ เฟสบุ๊ค ในราคาขายคันละ 20,000 บาท ส่วนอีกเส้นทางจะขนย้ายออกทางชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี มีนายพรชัย ปูนวิเชียร อายุ 34 ปีและ น.ส.จันจิรา สิงห์จันทร์ อายุ 32 ปี 2 สามีภรรยา เป็นผู้รับซื้อ ส่งขายให้นายอำนาจ สุภพ และน.ส.สุดาภรณ์ สุวรรณวิสุทธิ์ โดยมีนายหนูกาญจน์ สาสีมา เป็นคนขับรถตู้ที่ดัดแปลงสภาพขนย้ายรถจักรยานยนต์ ส่งข้ามผ่านทางแม่น้ำโขงเช่นเดียวกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพานะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่งดำเนินคดี พร้อมติดตาม ผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอีก 3 คน
