ผู้ว่าฯภูเก็ต รุดให้กำลังใจครอบครัวน้องมิ้นท์ ยันไม่เผาจนกว่าจะรู้สาเหตุการเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เดินทางไปพบกับพ่อแม่และญาติของ น.ส.พรพิพัฒน์ หรือน้องมิ้นท์ ผู้เสียชีวิตจากการถูกลงโทษให้วิ่งบริเวณลานจอดรถของมหาวิทยาลัย ก่อนจะเป็นลมและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เพื่อพูดคุยและให้กำลังใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าในส่วนของแม่นั้นยังทำใจไม่ได้และยังเพ้อเรียกชื่อลูกสาวตลอดเวลา ในขณะที่พ่อและน้องสาว ตลอดจนญาติๆ ต่างยังอยู่ในอาการเศร้าโศกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ทางด้าน ผศ.ดร.หิรัญ ประสานการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พร้อมด้วย ผศ.ดร.นพดล จันระวัง รองอธิการบดี ฝ่ายกิจกรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาพบกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต เพื่อมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 100,000 บาท แต่ทางครอบครัวได้ปฏิเสธและยังไม่ขอรับเงินดังกล่าวก่อน โดยขอให้ทราบผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนของน้องก่อนว่าเป็นอย่างไร
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังเข้าพบว่า ในวันนี้เดินทางมาพบกับญาติผู้เสียชีวิตเพื่อให้กำลังใจ โดยเฉพาะพ่อกับแม่ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจอย่างมาก และทั้งสองยังอยู่ในอาการช็อก และจากที่คุยกันไว้ก็คือจะต้องดูแลคุณแม่ ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าโศกมาก และคุณพ่อก็มีโรคประจำตัว เป็นความดัน และยังต้องดูแลลูกคนเล็กอีก 1 คน ซึ่งทางเราก็จะเข้ามาช่วยดูแลตรงนี้เป็นอันดับแรก ส่วนในเรื่องของคดีก็ได้มีการแจ้งความไว้แล้ว อันนี้ก็ต้องรอพิสูจน์กันในข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันทางญาติก็รอผลชันสูตรจากแพทย์เช่นกัน ก็ต้องรอข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ ทางจังหวัดก็พูดคุยกับทางอธิการบดี ซึ่งเป็นผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งก็รู้สึกเศร้าใจเพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น ทางเราก็อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้าย เพราะการสูญเสียถ้าไม่เกิดขึ้นกับใครก็ไม่มีทางรู้ ในวันนี้จึงมาแสดงความเสียใจ และได้กำชับไปทางมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ ว่าการทำกิจกรรมต่างๆ ต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะที่ควร เพราะผลที่เกิดขึ้นมานั้น อาจจะเกิดขึ้นจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือประมาทพลาดพลั้งไป แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วความเสียหายมันเยอะ โดยเฉพาะความเสียหายทางด้านจิตใจ สำหรับครอบครัวหรือญาติผู้สูญเสีย จึงคิดว่าต้องช่วยกันดูแล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พร้อมลงพื้นที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ยังเหลือผลการชันสูตรยืนยันจากแพทย์ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่มีการสรุปสำนวนการสอบสวน หรือแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ
ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า จะยังไม่นำร่างของน้องออกมาตั้งบำเพ็ญกุศลจนกว่าจะทราบผลการชันสูตรและทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต
