‘รุ่นใหม่นนท์’ เดือดสื่อลงข่าวบิดเบือน อ้างใช้ปืนไล่ยิง ‘ไทยภักดี’ ลุยแจ้งความเอาผิด

นนทบุรี กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เดือด ถูกสื่อลงข่าวบิดเบือน โยงไล่ยิงทำร้าย กลุ่มไทยภักดี รุดแจ้งความกลับสื่อดังหมิ่นประมาททำให้ทางกลุ่มเสียชื่อและสังคมเข้าใจผิด

เวลา 11.00น.วันที่ 28 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี จำนวน 15คน นำโดย นางปัญญารัตน์ นันทภูตานนท์ แกนนำคณะก้าวหน้า นนทบุรี นายชินวัตร หรือไบร์ท จันทร์กระจ่าง และนายเวสารัช ชาติยิ่งเจริญ พร้อมสมาชิกเครือข่ายคนรุ่นใหม่ นนทบุรี เดินทางมาถามความจริงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์ หลังสื่อ”ทีนิวส์”นำภาพกลุ่มพวกตนไปลงข่าว ออกข่าวว่าไล่ทำร้ายกลุ่มไทยภักดี มีหมายจับ ซึ่งทางสื่อดังกล่าว ได้ใช้ภาพของนายไมค์ ระยอง ไบร์ท ชินวัตร และนายเวสารัช โยงประเด็น พาดพิง ชี้นำ กล่าวหาว่ามีหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มใช้อาวุธปืนประกบไล่ยิงกลุ่มไทยภักดี ที่เดินทางมาสถานีตำรวจเมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ก.ย.เวลา 14.40น.ที่ผ่านมา ตามที่สื่อดังกล่าวได้พาดพิงและมีการไลฟ์สดกล่าวหา ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด มองทางกลุ่มว่าเป็นพวกอันธพาลและใช้ความรุนแรง ทำให้กลุ่มเสียหาย

ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการขับรถเฉี่ยวชนกัน มีการด่าทอ นำอาวุธปืนขึ้นมาขู่ เป็นเรื่องส่วนตัว เหตุเกิดที่บริเวณช่วงใต้สะพานกลับรถต่างระดับ สาลีโข ก่อนเข้าสภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี โดยผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ ว่าที่ ร.ต.กัมปนาท ดิษฐ์สว่าง อายุ 54 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกูตเตอร์ ADV 150 CC. สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เฉี่ยวชนกับขบวนรถกระบะของกลุ่มไทยภักดี ที่กำลังเดินทางเข้าไปยังสภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อแจ้งความดำเนินกับนายอานนท์ นำภา และช่องวอยซ์ทีวี ที่เผยแพร่ไลฟ์สดการปราศรัยของนายอานนท์ฯที่บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลนนทบุรี ได้อนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุ เลขที่ 470/2563 ลงวันที่ 26 ก.ย.63 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจด้วยการขู่เข็ญ ซึ่งว่าที่ ร.ต.กัมปนาท ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวและได้ประกันตัวออกไปจาก สภ.ชัยพฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายอยู่ ผู้ก่อเหตุจะเกี่ยวข้องกับทางกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี ด้วยหรือไม่อย่างไรก็เป็นเรื่องที่ทางตำรวจต้องหาข้อมูลหลักฐานในการเชื่อมโยง ไม่ใช่เป็นการด่วนสรุปตัดสินของสื่อทีนิวส์ ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี เกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังในเหตุการณ์

นายชินวัตรหรือไบรท์ เปิดเผยว่า วันนี้ในนามแกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี ได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจภูธรชัยพฤกษ์ ในเรื่องที่มีสื่อ ทีนิวส์เสนอข่าวไปว่าศาลอนุมัติหมายจับชู 3นิ้ว และใช้ภาพผู้ร่วมชุมนุมในกิจกรรมยื่นหนังสือที่ สภ.เมืองนนทบุรี บังเอิญตรงกับวันเกิดเหตุกลุ่มไทยภักดีได้ถูกชายขับรถไล่และขู่ด้วยอาวุธปืนก่อนถึงทางเข้าสภ.ชัยพฤกษ์ และวันนี้ก็ได้รับทราบข้อมูลถึงความชัดเจนจากพนักงานสอบสวนแล้วว่า มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ดังกล่าวไปแล้ว และไม่เกี่ยวข้องกับทางกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี แต่อย่างใด พร้อมได้กล่าวยืนยันความบริสุทธิ์ มาตลอดว่าทางกลุ่มของเราชุมนุม โดยอหิงสาและปราศจากอาวุธมาโดยตลอด เป็นการยืนยันได้ว่าทางกลุ่มเราไม่มีการใช้อาวุธใดๆหรือใช้กำลังกระทำการใดๆตามที่ถูกสื่อ ทีนิวส์ กล่าวหาทำให้สังคมเข้าใจผิด ว่าเป็นฝีมือของทางกลุ่มเรา ตามที่นำเสนอภาพเผยแพร่ลงข่าวออนไลน์ออกไป จึงได้เดินทางมาลงแจ้งความดำเนินคดีกับทางทีนิวส์ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

Advertisement

และในเวลา 13.30น.ก็จะเดินทางไปแจ้งความ เอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับทางสื่อทีนิวส์ ที่ให้ข้อมูลผิดบิดเบือนในกรณีลงข่าวออน์ไล ทำให้ทางกลุ่มถูกเข้าใจผิดทางสังคมเสียชื่อและเสียหายดังกล่าวด้วย พร้อมทวงถามความจริงกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ว่าการที่ได้รับเรื่องแจ้งความ นายอานนท์ นำภาและดำเนินคดีกับสื่อวอยซ์ ทีวี ตามที่กลุ่มไทยภักดีกล่าวอ้างว่า ขึ้นปราศัยที่บริเวณสนามหลวงและมีการไลฟ์ เป็นการทำตามหน้าที่สื่อมวลชนของวอยซ์ทีวี เข้าข่ายการละเมิด ม.112 เป็นความจริงอย่างไร

ต่อมา พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน ได้ชี้แจงกรณีกลุ่มไทยภักดี ยืมใช้สถานที่ของสภ.บางศรีเมือง แจ้งดำเนินการตาม ม.112 กับวอยซ์ทีวี ว่า ยังไม่ได้รับแจ้งความ ในข้อกล่าวหา ม.112 เพียงแต่เขามาให้การและรายละเอียดว่า น่าจะมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่ดำเนินการ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ รวบรวมข้อมูลหลักฐาน โดยจะผิดหรือเข้าข่ายด้วยหรือไม่ ยังไม่ทราบ โดยข้อหาดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจตัดสินใจ อยู่ที่ทางคณะกรรมการ เรามีหน้าที่เพียงแค่เสนอข้อมูลเรื่องขึ้นไป ตามลำดับชั้น กองบังคับการ ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณา ต้องรอคำสั่งลงมาว่าจะเข้าข่ายหรือจะดำเนินคดีกับใครอย่างไรต่อไป แต่การที่ทางกลุ่มไทยภักดี เขามาแจ้งกล่าวหา ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำหน้าที่หรือไม่รับแจ้งเรื่อง อันนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่กว่า โดยยืนยันว่ายังไม่ได้แจ้งความ ม.112 ซึ่งก็เหมือนกันที่ตอนนี้ทางกลุ่มได้เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหา เอาผิด พ.ร.บ.คอมกับทางผู้เผยแพร่ภาพของสื่อทีนิวส์ เราก็ต้องรับแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้ตามหน้าที่เหมือนกัน ไม่มีการเลือกปฎิบัติหรือมีสองมาตราฐานแต่อย่างใด เราทำตามหน้าที่ รักษากฏหมายและเป็นกลาง โดยไม่เลือกข้างหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image