พลทหารเสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถสับเปลี่ยนกำลังพล

พลทหารเสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถสับเปลี่ยนกำลังพล

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ริมถนนสายหาดใหญ่ปัตตานีในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนั้น ทราบว่า กำลังทหารทั้งหมดนั้นที่เดินทางผ่านมานั้น เป็นการเคลื่อนย้ายเพื่อสับเปลี่ยนกำลัง กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 ร.15 พัน 1 จาก ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ไปยัง กองพันทหารราบเชิงรุก (พัน.ร.เชิงรุก) บ.นูโร๊ะ ม.1 ต.โละจูด อ.แว้ง จว.นราธิวาส เมื่อขบวนรถดังกล่าวมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้นแรงระเบิดทำให้รถยนต์บรรทุกขนาด 2 ½ ตัน (FTS) ได้รับความเสียหายเล็กน้อยกำลังพลเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 นาย นำส่ง รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร ทราบชื่อ 1.จ.ส.อ.สัญญา บุรีรักษ์ อาการ หูอื้อ มึนหัว เลือดออกจมูก 2. ส.ท.จักรกฤษ เพชรทอง อาการ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังหูขวา 3. ส.ต.เอกราช วิชาศาสตร์ อาการ ถูกสะเก็ดบริเวณต้นขาขวา (บาดเจ็บสาหัสปัจจุบันนำส่ง รพ.ปัตตานี เพื่อผ่าตัดนำสะเก็ดระเบิดออก) 4. พลฯ อารียะ สาและ อาการ ถูกสะเก็ดบริเวณไหล่ขวา 5 พลฯ พงศกร ไหมร่วง อาการ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังด้านขวา 6. พลฯ ฮารอฟัด มะเซ็ง อาการ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่า ส่วนผู้เสียชีวิตคือ พลฯ อรรถพล พลายชนะ อาการ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณหน้าอกด้านขวา มีเลือดคั่งในปอด ส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง วางแบบเร่งด่วน ชิ้นส่วนสังหาร เหล็กเส้นตัดท่อน บรรจุในถังแก๊สปิกนิก จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร โดยผูกติดไว้กับต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนหมายเลข 43 (หาดใหญ่ – ปัตตานี) บ.คลองประดู่ ม.4 ต.ปากบาง อ.เทพา

อย่างไรก็ตามหน่วยงานด้านความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดกลุ่มคนร้ายจึงทราบวันเวลา ในการสับเปลี่ยนกำลัง รวมถึงเลือกเวลาก่อเหตุได้ตรงกับขบวนรถสับเปลี่ยนกำลังพลขับผ่านพอดี

ภายหลังเกิดเหตุ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องสิทธิและสวัสดิการ ตลอดจนจัดการศพอย่างสมเกียรติที่สุด และได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจสงขลา เพิ่มมาตรการในการควบคุมพื้นที่ และจัดกำลังติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ต้องสงสัย และแหล่ง support site ตลอดจนสนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครประจำพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณเส้นทาง/พื้นที่ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีและหลบซ่อนตัว รวมไปถึงการลาดตระเวนเส้นทางและจรยุทธ์ในพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะพื้นที่สูงข่ม พื้นที่เขตก่อสร้าง ท่อลอด คอสะพาน และพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image