หนุ่มตกงาน หลอนยานรกหายตัวนาน 20 วัน เหลือเพียงชิ้นเนื้อและโครงกระดูก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม ร.ต.อ.ศักดา ตะหริ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งพบศพมีผู้เสียชีวิตอยู่บนยอดเขา ในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านห้วยเร็จ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง จึงรุดตรวจสอบพร้อม ชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดตรัง อาสามูลนิธิกุศลสถานตรัง และบรรเทานาโยง
ที่เกิดเหตุเข้าไปในป่าลึกต้องเดินเท้าขึ้นเขาเป็นระยะทางกว่า 10 กม. เมื่อไปถึงพบศพที่กำลังเน่าเปื่อยเป็นโครงกระดูกนั่งเหลือพิงกับต้นไม้ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เจ้าหน้าที่จึงทำการห่อศพก่อนนำลงมาจากเข้าด้วยความยากลำบาก ใช้เวลากว่า 3 ชม.จึงสามารถนำลงมาด้านล่างได้สำเร็จ
เมื่อศพมาถึงด้านล่าง มีนางจิตรตรา เอียดศรี อายุ 49 ปี ได้มายืนรอดูก่อนได้รับการยืนยันว่าศพดังกล่าวเป็นลูกชายตนเองที่หายออกจากบ้านมาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ทราบชื่อ นายสรายุทธ มหุวรรณ อายุ 28 ปี ชาวจ.ตรัง เนื่องจากจดจำเสื้อผ้าของลูกชายได้
นางจิตรตรา ผู้เป็นแม่กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้วิ่งไปเอารถ จยย.ของชาวบ้านออกไปคันแรกรถเกิดดับ จึงได้นำรถของชาวบ้านขับออกไปอีก ตนได้ออกตามหาแต่ไม่มีใครเห็นตนจึงได้ไปแจ้งความว่าคนหายมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้รับจ้างขับรถที่ จ.ภูเก็ต แต่เมื่อช่วงโควิด19 ระบาดจึงกลับมาอยู่บ้าน ผู้ตายไม่มีลูกไม่มีเมีย ก่อนจะออกจากบ้านเวลาประมาณตี 3 ผู้ตายเคยบอกว่าจะมีพ่อบุญธรรมจะมายิง จึงจะผูกคอ ตนจึงสงสัยว่าพ่อบุญธรรมมีที่ไหน เล่าเป็นเรื่องเป็นราว และเคยนั่งบีบสิวโดยใช้แหนบ และมีดปลายแหลมมาเขี่ยหัวสิวจรเลือดอาบ
นางจิตรตรา เล่าอีกว่า ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีปัญหาอะไร และไม่ได้ออกไปไหน แต่จะมีอาการเครียดอยู่ตลอดเวลา ตนเชื่อว่าผู้ตายเกิดอาการหลอนยา ตนเคยถามว่าผู้ตายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมั้ย ก็เงียบตลอด แต่ตนดูจากสีหน้ารู้ว่าต้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแน่ จึงน่าเป็นมูลเหตุจูงใจ
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนได้สั่งการให้นำร่างซึ่งเป็นโครงกระดูกและชิ้นเนื้อที่หลงเหลืออยู่รวมน้ำหนักประมาณ 30 กก.ไปชันสูจน์อย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์ตรัง เบื้องต้นทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างได เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุในการเสียชีวิตได้อย่างแน่ชัด
