“สนธยา”ลุยปั้น 7 โครงการยักษ์กว่า 8 หมื่นล้าน ดัน “พัทยา” โฉมใหม่ขึ้นชั้นมหานครระดับโลก

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ช่วงเวลา 25 เดือนของการทำหน้าที่นายกเมืองพัทยาได้ช่วยยกภูเขาออกจากอกพี่น้องชาวเมืองพัทยาไปได้เกือบ 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาขยะ ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาอาชญากรรม ปัญหาขยะถูกจัดการแบบเบ็ดเสร็จด้วยการจัดหาภาคเอกชนให้เข้ามารับเหมารับผิดชอบครบวงจร ตั้งแต่จัดเก็บไปจนถึงการกำจัด ขณะที่ปัญหาน้ำท่วม บรรเทาไปได้แล้วประมาณ 80% ถูกแก้ไขด้วยการปรับปรุงระบบระบายน้ำที่มีอยู่เดิมให้มีขีดความสามารถในการระบายน้ำได้ดีขึ้น เร็วขึ้น ทำให้น้ำที่เคยท่วมขังนานเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง เหลือไม่เกิน 45 นาที ส่วนปัญหาอาชญากรรม เราแก้ไขด้วยโครงการฟ้าทะลายโจรคือนำตู้สีฟ้าที่นำไปติดตั้งในชุมชนซึ่งมีความเสี่ยงหรือความเปราะบางต่อปัญหาอาชญากรรมตามคำแนะนำของคณะกรรมการชุมชนแต่ละชุมชน ปัจจุบันติดตั้งรวม 9 จุด ใน 8 ชุมชน

นายกเมืองพัทยากล่าวถึงแผนงานและโครงการที่มุ่งมั่นดำเนินการต่อไปในปี 2564 ต่อเนื่องถึงปี 2565 ว่าได้เตรียมแผนงานและโครงการที่จะพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่ความเป็น “นีโอพัทยา” เพื่อทำให้พัทยาเป็นมหานครที่น่าเที่ยว-น่าอยู่อาศัย และน่าลงทุนเอาไว้พร้อมแล้ว 7 โครงการ รวมวงเงินงบประมาณ 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเมืองน่าอยู่ ประกอบด้วย 1.โครงการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมแบบเบ็ดเสร็จ โดยบูรณาการความร่วมมือกับกรมโยธาธิการ จัดทำระบบบริหารจัดการน้ำ ทั้งทางระบายน้ำ ระยะทาง 110 กม.และบ่อหน่วงน้ำขนาดยักษ์ ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณแบบบูรณาการ 17,800 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปัญหาน้ำท่วมน้ำขังของเมืองพัทยาถูกแก้ไขให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง จากปัจจุบันเมืองพัทยาดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณรอบนอกของเมืองพัทยา ช่วงถนนเลียบทางรถไฟเป็นจุดดักน้ำ เสริมด้วยการจัดทำบ่อหน่วงน้ำ และส่งน้ำผ่านท่อขนาดใหญ่ ขนาด 1.80 ม.ตลอดความยาวชายหาด สามารถช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ดีขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองพัทยาได้ 70-80%

Advertisement

นายสนธยากล่าวว่า 2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสีย จากวันละ 100,000 ลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 300,000 ลูกบาศก์เมตร วงเงินงบประมาณ 750 ล้านบาท โดยร่วมกับสำนักงานอีอีซีปรับปรุงพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียให้มีขีดความสามารถบำบัดน้ำเสียเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงจะทำให้ปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงทะเลหมดไปเท่านั้น แต่น้ำเสียที่ผ่านกระบวนการบำบัดจะถูกป้อนเป็นน้ำดิบแก่ภาคอุตสาหกรรม ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

นายสนธยากล่าวว่า 3. โครงการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแบบโมโนเรล เชื่อมระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงและรถไฟรางคู่ 3 สายทาง รวมระยะทาง 34 กม.วงเงินงบประมาณ 50,000 ล้านบาท ในรูปแบบโครงการร่วมลงทุน PPP องค์กรธุรกิจเอกชนปัจจุบันได้ดำเนินการสำรวจออกแบบเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ภายในปี 2570 จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่การเดินทางของประชาชนและลดความแออัดของการจราจร ตลอดจนมลพิษทางอากาศในเมืองพัทยาไปได้มาก

นายสนธยากล่าวว่า 4. โครงการพัฒนาแผนแม่บทดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศเมืองพัทยา วงเงินงบประมาณ 500 ล้านบาท โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบูรพา จัดทำแผนแม่บทดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศ-การสื่อสารเมืองพัทยา (ระยะเวลา 5 ปี) เพื่อยกระดับเทคโนโลยี (Digital Transformation) ใน 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1.พัฒนาคน 2.พัฒนาบริการ 3. พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล 4.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยดิจิทัล และ 5.ส่งเสริมการจัดการองค์กรดิจิทัลสมรรถนะสูง เป้าหมายคือ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาบริหารจัดการและให้บริการประชาชน และพัฒนาไปสู่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดใหญ่หรือ Big Data เชื่อมต่อกับทุกระบบการทำงาน โดยจะมีการพัฒนาแอปพลิเคชันเข้าถึงประชาชนในทุกระดับ มุ่งตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้านคุณภาพชีวิต มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้านระบบสาธารณสุข ด้านการศึกษา ครอบคลุมในทุกมิติผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพิ่มขีดสามารถในการแข่งขันกับเมืองพัทยา

นายสนธยากล่าวว่า 5. โครงการพัฒนาพื้นที่ตลาดนาเกลือ หรือนีโอนาเกลือ หรือ โอลด์ทาวน์นาเกลือ วงเงินงบประมาณ 600 ล้านบาท ร่วมกับเทศบาลเมืองบางละมุง เพื่อปลุกตำนานของนาเกลือในอดีตให้กลับคืนสู่ความมีชีวิตชีวาให้คนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อ ๆ ไปได้สัมผัส คาดว่าจะดำเนินการได้เรียบร้อยภายในปี 2565 6.โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเรือพัทยาใต้ หรือท่าเรือบาลีฮาย เชื่อมต่อวอล์คกิ้งสตรีท ครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางเมตร วงเงินงบประมาณ 4,000 ล้านบาทบาท ร่วมกับกรมเจ้าท่า และกรมโยธาธิการ พัฒนาท่าเทียบเรือ ศูนย์ธุรกิจการค้า ลานสันทนาการ เชื่อมต่อกับวอล์คกิ้งสตรีท ครอบคลุมพื้นที่ 160,000 ตารางเมตร เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นศูนย์ธุรกิจและนันทนาการครบวงจรของเมืองพัทยา

นายสนธยากล่าวว่า 7. โครงการนีโอเกาะล้าน วงเงินงบประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเกาะล้านครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค ปรับปรุงท่าเทียบเรือ เส้นทางจราจร ถนนหนทาง ปรับปรุงภูมิทัศน์ จุดชมวิว ระบบบำบัดน้ำเสียชุมชน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยบนพื้นที่เพื่อให้เกาะล้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความพร้อม ชุมชนเกาะล้านได้รับการพัฒนา ชาวบ้านได้รับประโยชน์ และรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตจากการเจริญเติบโตของ อีอีซี. ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล

ทั้ง 7 โครงการซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่ความเป็นนีโอพัทยาที่สมบูรณ์แบบเป็นโครงการที่เกิดขึ้นบนฐานความร่วมมือกันระหว่างเมืองพัทยากับหลายส่วนราชการภายใต้งบประมาณแบบบูรณาการ และการร่วมลงทุนกับภาคธุรกิจเอกชนในรูปแบบของ PPP รูปธรรมของความเป็นนีโอพัทยาจะค่อยๆ ปรากฏให้ทุกคนได้สัมผัสนับจากปี 2564 เป็นต้นไป”นายสนธยากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image