ตำรวจทลายแก๊งค้ายาจังหวัดแพร่ อึ้งพบใช้เรือนจำเป็นตลาดกลางประสานงานค้าส่งยาบ้า

ตำรวจรวบแก๊งค้ายาบ้า หัวหน้าแก๊งเป็นพ่อค้ายาที่เคยอ้างเป็นนักข่าวเชียงราย แต่จนมุมตำรวจแพร่จับได้ 70,000 เม็ด เข้าคุกไปยังค้าต่อใช้เมียประสานหาลูกค้าในการเยี่ยมญาติเรือนจำแพร่สื่อสารติดต่อซื้อยากันตรงที่เยี่ยมญาติ ส่งล็อตใหญ่จากแม่สายถึงเด่นชัย บรรจุในไหฝังดินรอจำหน่ายปลีกใน อ.เด่นชัย

เวลา 19.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นายเฉลิมวุฒิ รักขติวงศ์ นายอำเภอเด่นชัย ร.ท.บรรเลง คัมภีร์ ผู้แทนทหารจากค่าย ม.พัน 12 อ.เด่นชัย เข้าตรวจสอบยาบ้าจำนวน 42 ห่อ รวม 48,000 เม็ด ที่เจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่แกะรอยจนพบมีการซุกซ่อนบรรจุในไหฝังดินไว้บริเวณบ้านเลขที่ 139 หมู่ 2 บ้านสวนหลวง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ พบว่าเป็นของนางนงคารบุญมาก อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมในขณะที่กลุ่มค้ายาที่เดินทางมาจากท่าขี้เหล็ก จ.เชียงราย เข้ามาในบ้านหลังนี้

นอกจากยาบ้าแล้ว ยังสามารถควบคุมตัวเอเยนต์ส่งยาบ้าด้วยคือ นางปิน บุญแสง อายุ 32 ปี ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 37/ช หมู่ 9 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายสิงหา นวพลพิทักษ์ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 373 หมู่ 7 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายอ่อน บุญแสง อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 37/ช หมู่ 9 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งทั้ง 3 คนยังให้การปฏิเสธ

พลตำรวจตรีภานุเดชกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ จนท.ตร.ชุดจับกุม สืบทราบว่า นางนงคาร บุญมาก อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 139 หมู่ 2 ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดเมื่อปี 2557 และสามีชื่อ นายชินบุตร บุญมาก อายุ 35 ปี (ปัจจุบันถูกจำคุกเรือนจำจังหวัดแพร่คดียาเสพติด) มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดโดยร่วมกับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่ต้องโทษในเรือนจำด้วยกัน ซึ่งมีนายคำปัน นวพลพิทักษ์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่ถูกจับกุมตัวเมื่อปี 2557 พร้อมยาบ้า 70,000 เม็ด โดยนายชินบุตร จะติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากนายคำปัน โดยนายคำปันจะมอบหมายหรือสั่งการให้ น.ส.ปิน บุญแสง และนายอ่อน บุญแสง ซึ่งเป็นน้องชายของ น.ส.ปิน บุญแสง นำยาบ้าจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่สาย ไปส่งมอบให้กับนางนงคาร บุญมาก ภรรยาของนายชินบุตร  เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ใน อ.เด่นชัย จ.แพร่ และตามพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนครั้งละมากๆ

Advertisement

ต่อมาจากการสืบสวนและรับแจ้งจากสายลับว่า น.ส.ปิน บุญแสง กับพวก ได้รับคำสั่งจาก นายคำปัน นวพลพิทักษ์ ให้นำยาบ้าจำนวนมากไปส่งให้กับนางนงคาร โดยการประสานจากนายชินบุตรที่บ้านพัก ในช่วงตอนเย็นของวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบที่บ้านพักของนางนงคาร พบว่ามีบุคคลดังกล่าวเดินทางมาพักที่บ้านของนางนงคารจริง

ต่อมาวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา จนท.ชุดจับกุมจึงนำหมายค้นต่อศาลจังหวัดแพร่ ไปขอตรวจค้นบ้านพักของนางนงคาร โดยพบนางนงคาร, น.ส.ปิน บุญแสง, นายสิงหา นวพลพิทักษ์ และนายอ่อน บุญแสง อยู่ภายในบ้านและเมื่อเห็น จนท.ตร. พยายามจะวิ่งหลบหนี ชนประตูกระจกจนแตก เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม ควบคุมตัวไว้ และจากการตรวจค้นรอบๆ บริเวณ พบยาบ้าจำนวน 42 มัด จำนวน 84,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถังสีและในไหโอ่ง ฝังไว้ในดินบริเวณด้านข้างห้องส้วมหลังบ้านดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยแจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้งหมดทราบว่า “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

อนึ่ง ในส่วนของนายคำปัน นวพลพิทักษ์ ซึ่งถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 70,000 เม็ด ขณะถูกจับกุมได้อ้างตัวเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในจังหวัดเชียงราย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อทำการตรวจค้นจนสามารถจับกุมได้ตามวันเวลาดังกล่าว กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อถูกต้องโทษในเรือนจำจังหวัดแพร่ ทำให้ได้รู้จักกันและต่อมาได้ทำธุรกิจค้ายาบ้าร่วมกัน โดยใช้เรือนจำจังหวัดแพร่เป็นศูนย์กลางการประสานงานในวันพบญาติ ซึ่งผู้ต้องหากลุ่มนี้ไม่มีการติดต่อทางโทรศัพท์แต่อย่างใด การประสานงานและสั่งยาล็อตใหญ่ๆ ด้วยการสื่อสารกันในวันมาเยี่ยมญาติ แม้ว่าทางเรือนจำจะมีความเข้มงวดแต่ญาติของผู้ต้องขังยังคงไม่กลัวมาตรการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้ติดตามมาจากสายที่รายงานเข้ามาจนสามารถจับกุมได้ทั้งผู้ส่งยาและผู้ค้าปลีกในชุมชน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image