เลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง ส่อเค้าเดือด มือมืดทำลายหาเสียง “สาธร” ผู้สมัคร นายก อบจ.ตรัง เบอร์ 2 ทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง พังทั้งแถบ แจ้งความดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่จังหวัดตรัง นายสาวุฒิ วงศ์หนองเตย น้องชายนายสาธร วงศ์หนองเตย ผู้สมัครนายก อบจ.ตรัง เบอร์ 2 ทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ร้องเรียนว่าป้ายหาเสียงของนายสาธร (พี่ชาย) ผู้สมัครนายก อบจ.ตรัง เบอร์ 2 ที่ติดตั้งไว้ริมถนนสายบ้านน้ำราบ-หาดยาว หมู่ 6 บ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ถูกมือมืดกรีดทำลาย และตัดเอาไปทั้งแผ่นเหลือเพียงโครงไม้ และเศษส่วนป้ายส่วนศีรษะ และด้านล่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นายสาวุฒิ กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีการกรีดทำลายป้ายหาเสียงของนายสาธร (พี่ชาย) เบื้องต้น ได้ประสานกับทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ซึ่งผู้ใหญ่บ้านเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของคนในพื้นที่อย่างแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร ตนเองมองว่าจังหวัดตรังอยู่กันด้วยความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา จึงอยากวิงวอนทุกท่านที่เกี่ยวข้อง อย่าปล่อยให้จังหวัดของเราเดินมาถึงจุดที่ไม่พึงประสงค์ ตอนนี้ทราบดีว่ากระแสของนายสาธร วงศ์หนองเตย หลังจากที่ได้ออกหาเสียงในเขตเทศบาลนครตรังได้รับความนิยมสูงขึ้น ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นการกระทำของคู่แข่ง แต่น่าจะเป็นการกระทำของมือที่สาม หรือคนในเครือข่ายที่ไม่หวังดี ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ ตนเองยังไม่ได้พูดคุยกับนายสาธร เพราะต้องการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา“เบื้องต้นมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของทีมเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อทางตำรวจจะได้หาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้หรือใกล้เคียง เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาให้ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่กระทบต่อการหาเสียง หรือแนวนโยบายของทีม เพราะความนิยม แนวนโยบาย และแนวทางการทำงานครั้งนี้ อยู่ในใจประชาชนชัดเจนอยู่แล้วว่าจะเลือกใคร โดยการเมืองในจังหวัดตรังไม่ควรเดินทางมาถึงจุดนี้ ฝากให้ประชาชนติดตามการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด” นายสาวุฒิ กล่าว
ด้านนายยงยุทธ สักหลัด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.เกาะลิบง กล่าวยืนยันว่า การกระทำลักษณะนี้ไม่ใช่ฝีมือของชาวบ้านในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะชาวบ้านในพื้นที่ทั้งหมดจะสนใจเรื่องทำมาหากิน ไม่มีใครมาสนใจกระทำในลักษณะนี้ และการเลือกตั้งมาหลายยุคหลายสมัย ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นในพื้นที่ จึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนนอกพื้นที่ ไม่ใช่คนในพื้นที่อย่างแน่นอน