แม่ค้าเฮคนละครึ่งมีต่อ เผยเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะขายของไม่ได้
ร้านค้ารายย่อยในจังหวัดบุรีรัมย์ ต่างดีใจหลังจากรัฐบาลสานต่อโครงการคนละครึ่ง ระบุโครงการนี้ทำให้เพิ่มยอดขายถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จากที่เงียบเหงาช่วงโควิด-19 ยอมรับเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะไปไม่ไหว อยากให้รัฐบาลต่อโครงการคนละครึ่งไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ขณะลูกค้าพอใจเห็นความประหยัดชัดเจน
วันที่ 26 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านค้ารายย่อยในตัวจังหวัดบุรีรัมย์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลได้เริ่มใช้ในช่วงที่ผ่านมา ร้านค้าที่ไม่สนใจจะเข้าร่วมโครงการในตอนแรก กลับมาสมัครเข้าร่วมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศตามร้านค้ารวมถึงตลาดสด ต่างคึกคักไปตามๆ กัน
นายไพทูรย์ พูนสวัสดิ์ อายุ 45 ปี ชาว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกในรอบ 6 เดือนที่ได้พาครอบครัวมาร้านอาหารแบบพร้อมหน้า โดยใช้สิทธิคนละครึ่งที่สมัครได้ 3 สิทธิ มาจ่ายค่าอาหาร จากยอดที่ต้องจ่าย 850 บาท ใช้ 3 สิทธิ ยังเหลืออีก 50 บาท เท่ากับวันนี้จ่ายเงินในการกินข้าวกับครอบครัวเพียง 400 บาทเท่านั้น ถือเป็นการประหยัดได้ถึงครึ่งราคา ยอมรับชอบโครงการนี้มาก
ด้านนางอัญชลี บุญอุทิศ อายุ 52 ปี เจ้าของร้านจิ้มจุ่ม ถนนจิระ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อนจะมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร้านก็ขายยากอยู่แล้ว เพราะปัญหาเศรษฐกิจ แต่พอมาเกิดโรคโควิด รายได้ตีเป็นศูนย์ ถึงแม้สาธารณสุขจะให้เปิดร้านอาหารได้ก็ไม่ต่างกัน ลูกค้าไม่มาก ขายพอประทัง โครงการต่างๆ ของรัฐบาลเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ยังแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด เพราะร้านค้าอยู่ไม่ได้ จนแทบคิดฆ่าตัวตาย
พอมาถึงโครงการคนละครึ่ง มีลูกค้าทุกระดับ กล้าเข้ามาจับจ่ายซื้อของแบบไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากผู้บริโภคคิดว่าซื้อของได้ถูกถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ตอนนี้มียอดขายเพิ่มจากเดิมถึงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จึงอยากจะเรียกร้องให้รัฐบาล สานต่อโครงการคนละครึ่งไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นคืนกลับมาเหมือนเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จิมมี่งง! ผู้ตัดสินให้คะแนนแย้งกติกา ทำร่วงรอบแรกคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์เอเชีย
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ ฝ่ายทหารสัญญาบัตร 5 ราย
- เปิด 10 อันดับ วันแรกมหกรรมหนังสือ ‘ชันสูตรปวศ.ฯ’ คว้าแชมป์ขายดีบูธมติชน
- รพ.มาสเตอร์พีช เผยโฉม 3 สาว Make Your Looks ปรับลุกส์เปลี่ยนสไตล์ เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า