ลูกหนี้ ‘เจ๊ปากแดง’ บอกเพิ่งรู้ขายปลาเผา แฉแหลกเงินต้น 6 หมื่น แต่ให้จ่าย 4.6 แสน
คืบหน้าคดี น.ส.มาลี วรสวัสดิ์ อายุ 40 ปี ฉายาเจ๊ปากแดง เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยลอย จนลูกหนี้ส่งไม่ไหว ขอระงับดอกช่วงเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด แต่นายทุนไม่ยอม บีบบังคับให้จ่ายตามปกติ ก่อนจะให้สามีนายสุวพรรดิ์ ดำคลองเตย อายุ 46 ปี ยกพวกไปกระทืบนายสกุล ศรีรักษา อบต.บ้านคำนกกก หมู่ 1 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม แล้วใช้ด้ามปืนพกสั้นตบใบหน้าจนหางคิ้วซ้ายแตกเย็บ 3 เข็ม จึงร้องเรียนสื่อมวลชนกลายเป็นคดีดัง ตำรวจสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จึงไปเชิญตำมาสอบสวนปากคำที่ สภ.บ้านแพง กลายเป็นว่าผู้ต้องมามอบตัวเอง และได้รับการประกันตัวในชั้นศาลในวงเงินคนละ 50,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 13 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปหานางน้อย(นามสมมติ) ลูกหนี้คนหนึ่งของเจ๊ปากแดงอยู่บ้านดอนสะฝาง หมู่ 5 ต.โพนทอง อ.บ้านแพง ซึ่งเป็นคนแรกๆที่ขอระงับดอกเบี้ยจากเจ๊ปากแดงช่วงวิกฤตโควิด-19 แต่ไม่ได้รับความปราณีจากเจ้าแม่เงินกู้ จึงไปพบกับปลัดมือปราบนายมนตรี จารุธำรง อดีตปลัดอาวุโสอำเภอบ้านแพง ให้เป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ๊ปากแดง
นางน้อยเล่ารายละเอียดว่า มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายปลาส้มอยู่ตลาดสดบ้านแพง ปลายปี 2562 กู้ยืมเงินจากเจ๊ปากแดงจำนวน 60,000 บาท ส่งดอกเบี้ยลอยไม่หักเงินต้นวันละ 1,200 บาท เหตุที่ต้องเข้าไปอยู่ในวงจรเงินกู้นอกระบบ เพราะเครดิตไม่ผ่านธนาคาร จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินกู้จากนายทุนมาหมุนเวียน และยอมรับเงื่อนไขทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น มาสะดุดช่วงโควิดระบาดจึงโทรศัพท์ของระงับดอกเบี้ยไว้ให้เหลือแต่เงินต้น เพราะส่งดอกเบี้ยมานาน 1 ปี ส่งเฉพาะดอกอย่างเดียวตกไป 360,000 บาท เมื่อเจ๊ปากแดงยืนกระต่ายขอเดียวไม่ยอมระงับดอก ตนจึงต้องไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแพง และไม่คิดที่จะเบี้ยวแม้แต่นิดเดียว เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ก็คงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่ามาโทษว่าลูกหนี้รวมหัวกันเบี้ยว เกิดจากเจ๊ปากแดงที่ไม่ยอมลดหย่อนให้ต่างหาก
เมื่อถามว่าเจ๊ปากแดงอ้างตนไม่ใช่นายทุนเงินกู้ เป็นแค่แม่ค้าขายปลาเผาตามตลาดนัดเท่านั้น นางน้อยได้ยินคำนี้ถึงกับพูดว่าเป็นแม่ค้าตอนไหน เห็นแต่ขับรถมาเก็บเงินลูกหนี้ทุกวัน บางวันก็ส่งลูกน้องมาเก็บ จากนั้นนางน้อยก็ไปหยิบสมุดพกมาเปิดให้ผู้สื่อข่าวดู เป็นรายการการชำระหนี้ที่เจ๊ปากแดงเป็นคนเขียนด้วยลายมือตนเอง โดยสมุดเล่มนี้ทำขึ้นหลังจากที่ตนส่งดอกลอยมา 1 ปี จนกระทั่งไม่ไหว เพราะส่งดอกมาแล้ว 360,000 บาท เจ๊ปากแดงจึงให้ตนส่งอีก 100,000 บาท โดยเก็บวันละ 500 บาท มีลายเซ็นของผู้เข้ามาเก็บเงินกำกับทุกวัน “ถ้ารวมของเดิม 360,000 บาท จะเป็นเงินทั้งสิ้น 460,000 บาท” นางน้อยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังไม่ได้ส่งเงินให้เจ๊ปากแดงแล้ว ทำไมไม่มีใครมาตามทวงหนี้เหมือนรายอื่นๆ นางน้อยตอบว่าที่บ้านดอนสะฝาง มีทหารมาตั้งฐานอยู่ที่วัด พวกนี้จะกลัวทหารมากจึงไม่กล้ามาราวี มีทหารอยู่ใกล้บ้านแล้วอุ่นใจ ถ้าไม่มีทหารก็คงไม่ต่างจากลูกหนี้รายอื่นหรอก
