หยุดยาว 4 วัน ปชช.เดินทางรถสาธารณะต่ำกว่าคาด 5.2% เน้นใช้รถส่วนตัวกว่า 11 ล้านคัน
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้เพิ่มวันหยุดเป็นกรณีพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ระหว่างวันที่ 10-13 ธันวาคม ส่งผลให้มีวันหยุดราชการต่อเนื่องรวม 4 วันกระทรวงคมนาคมได้บูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยข้อมูลสะสมของวันที่ 9-13 ธันวาคม 2563 สรุปได้ดังนี้ ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 8,103,347 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 5.20% โดยมีปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ 11,523,878 คัน สูงกว่าประมาณการ 39.04% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 10,624,231 คัน คิดเป็น 92.19%
สำหรับ การตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ 42,123 คัน ณ จุดตรวจความพร้อม 25 จุด พบข้อบกพร่อง จำนวน 6 คัน ได้สั่งการแก้ไขทั้งหมดแล้ว ส่วนเรือโดยสารและท่าเรือ/แพ 135 แห่ง พบเรือโดยสารบกพร่อง 2 ลำ ได้ห้ามใช้ทั้งหมดแล้ว ด้านการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รถไฟ รถไฟฟ้า และผู้ประจำเรือ ไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด
ขณะที่ การเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม 321 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 55 ราย บาดเจ็บ 288 ราย บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นทางตรง คิดเป็น 74.68% สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด คิดเป็น 63.92% รถที่เกิดอุบัติเหตุสุงสุด คือ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ คิดเป็น 29.82% จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพฯ 23 ครั้ง สำหรับอุบัติเหตุที่มีรถจักรยานยนต์เกี่ยวข้อง จำนวน 98 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 32 คน บาดเจ็บ 94 คน เกิดที่จังหวัดสุโขทัยมากที่สุด 8 ครั้ง มีรายงานเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางรถไฟ 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2 คน อุบัติเหตุรถบรรทุก 14 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บ 5 คน ทั้งนี้ ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุในบริการขนส่งสาธารณะทางน้ำ และทางอากาศ
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัดทั้งการดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ควบคุมการสวมหน้ากากอนามัย และจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือไว้ให้บริการ สำหรับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน สามารถสอบถามข้อมูลด้านการเดินทาง แจ้งเหตุหรือข้อร้องเรียน ได้ที่ ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร.1356