คุมตัวอดีตนักมวยฉุดหญิง 3 รายซ้อนไปทำแผน รับเสพยาก่อนก่อเหตุ เจอ 5 ข้อหาหนัก (คลิป)

ตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์คุมตัวอดีตนักมวยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตะเวนฉุดหญิงสาววันเดียว 3 รายซ้อนกลางเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ขณะที่ชาวบ้านโล่งใจหลังคนร้ายถูกจับ

จากรณีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตะเวนฉุดหญิงสาววันเดียว 3 ราย ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนจะทำร้ายเหยื่อ โดยตบและเตะจนได้รับบาด แล้วอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ไปจนมีพลเมืองดีเข้าช่วยจึงรอดหวุดหวิด โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมกับโพสต์เฟสบุ๊ก แจ้งเตือนภัย กระทั่งตำรวจจับกุมตัวนายน้ำเพชร ภูรัตน์ อายุ 33 ปี ชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยผู้ก่อเหตุมาสอบสวน พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนทั้ง 3 คดีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่จราจรสภ.เมืองกาฬสินธุ์ คุมตัวนายน้ำเพชร ภูรัตน์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุทั้ง 3 เหตุการณ์

โดยจุดแรกผู้ต้องหาก่อเหตุช่วงเวลา 11.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม 2563 บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดแล้วทำทีหลอกพูดคุยสอบถามนักเรียนหญิงวัย 15 ปี ก่อนที่จะลงจากรถแล้วไปอุ้มตัวเด็กนักเรียนหญิง แต่ผู้เสียหายพยายามดิ้นจนหลุดมือ และทำให้รถล้ม ผู้ต้องหาจึงรีบขี่รถหลบหนีไป ซึ่งจุดนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน

Advertisement

จุดที่สองเวลาประมาณ 20.30 น.ผู้ต้องหาก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามหญิงสาววัย 21 ปี จากถนนอภัย มาถึงบริเวณร้านอาหารปักใต้ ถนนประดิษฐ์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ห่างจากจุดแรกประมาณ 300 เมตร ก่อนจะลงไปทำร้ายเหยื่อ โดยการตบและเตะแล้วฉุดขึ้นรถจักรยานยนต์พาไปที่บ้านดอนยานาง ต.ดอนสมบูณ์ อ.ยางตลาด ห่างจากจุดพาตัวมาประมาณ 20 กม.และแวะที่ร้านขายของชำในหมู่บ้าน กระทั่งมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ และทำร้ายพลเมืองดี ก่อนที่ผู้เสียหายวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและตำรวจมาถึงคนร้ายได้ขี่รถหนีไป

สำหรับจุดที่สามผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับเข้ามาก่อเหตุอีกครั้งช่วงเวลา 00.00 น.โดยพยายามฉุดหญิงสาวอายุ 30 ปี ที่บริเวณสี่แยกทางลงไปสวนสาธารณะกุดน้ำกิน ห่างจากบขส.กาฬสินธุ์ประมาณ 500 เมตร แต่ผู้เสียหายร้องตะโกนให้คนช่วย กระทั่งมีพลเมืองดีช่วยเหลือได้ทัน คนร้ายตกใจรีบขี่รถหนี แต่ได้นำเอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปด้วย ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้หลังจากทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นแจ้ง 5 ข้อหา ประกอบด้วย อนาจาร กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ และเสพยาเสพติด

Advertisement

ด้านนางสาวกฤษณา รัดที อายุ 38 ปี ผู้ใหญ่บ้านดอนยานาง ม.8 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบออกมาดูก็พบว่าคนร้ายกำลังชกต่อยชุลมุนกับพลเมืองดี ซึ่งเป็นลูกบ้านของตนที่เข้าไปช่วย ซึ่งคนร้ายได้ใช้สนับมือชกพลเมืองดีเจ็บ 1 ราย ก่อนที่ชาวบ้านทุกคนทยอยออกมาช่วยพยายามห้ามและขอให้ปล่อยตัวหญิงสาวแต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งระหว่างช่วงชุลมุนนั้นหญิงสาวดิ้นหลุดออกมาได้และรีบวิ่งหนี ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง คนร้ายจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หนีไป

เบื้องต้น นายน้ำเพชร ยังคงให้การวกวน ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นอดีตนักมวยไทย ชกมวยตามเวทีหมู่บ้าน ปัจจุบันไม่งานทำ ซึ่งยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุทำร้ายโดยการตบกกหูและเตะ พร้อมกับฉุดนางสาวเบญจพร เหมือนประสาท อายุ 21 ปี ขึ้นรถจักยานยนต์ไปจริง โดยอ้างว่าจะพาไปเที่ยว ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าหลายเม็ดและดื่มเบียร์เข้าไปแล้วเกิดอาการเมาจึงมาก่อเหตุดังกล่าว แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุกับหญิงสาวอีก 2 รายในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ และ อ.ยางตลาด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การทั้งหมด จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย อนาจาร และเสพยาเสพติด

อย่างไรก็ตามหลังจากคนร้ายถูกจับกุมชาวบ้านก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาบุคคลดังกล่าวนั้นมักชอบก่อเหตุอาละวาด ข่มขู่ จนชาวบ้านหวาดผวากลัวจะถูกทำร้ายไปตามๆ กัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image