ระทึก! สาววัย 23 ปี ถูกไอ้โม่งขี่ จยย.ประกบ ใช้มีดจี้ลากตัวเข้าป่าข้างทาง โชคดีหนีรอดหวุดหวิด
วันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับการร้องทุกข์จากแม่ของหญิงสาวอายุ 23 ปี ว่าบุตรสาวของตนเอง ถูกชายสวมหมวกไอ้โม่งขี่รถจักรยานยนต์ประกบลากตัวใช้มีดจี้จับพาเข้าป่าระหว่างทาง โชคดีที่ลูกสาวหนีเอาตัวรอดมาได้หวิดถูกไอ้โม่งข่มขืนแล้วฆ่า โดยแม่หญิงสาวให้ติดต่อลูกสาวโดยตรงเพื่อระวังภัย ให้กับคนอื่นที่ขับรถกลับบ้านช่วง 3 ทุ่ม
ผู้สื่อข่าวได้ประสานกับผู้เสียหายที่ถูกขับรถที่ประกบระหว่างทาง บังคับให้แวะลงข้างทางตามที่ร้องทุกข์พบ น.ส.เอมอร (ขอสงวนชื่อ-สกุล) ซึ่งเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 21 มกราคม เวลา 21.00 น. ตนขี่รถ จยย. ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน บนถนนทางหลวงชนบทแยกโคกป่าแพง-โปร่งสะเดา (แยกโรงเรียนสายมิตรศึกษา) เพื่อที่จะกลับบ้าน โดยปกติจะขับรถกลับเข้าบ้านเวลานี้ร่วมกับคนอื่นๆในหมู่บ้านหลายสิบคน ขณะขับรถมาตามปกติ ระหว่างนั้นมีรถวิ่งสวนไปมาเป็นระยะๆ ระยะทาง 13 กม. เมื่อมาถึงระหว่างทางเห็นว่ามีแสงไฟรถวิ่งตามมาห่างๆ ไม่ได้คิดอะไร อึดใจต่อมา เมื่อมองกระจกหลังไม่พบแสงไฟรถคันที่วิ่งตามหลังมาแล้ว
น.ส.เอมอรกล่าวต่อว่า ในใจก็คิดว่าแยกเข้าหมู่บ้านระหว่างทาง จึงขี่รถมาด้วยความเร็วตามปกติ ทันใดนั้นได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งร้องตะโกนบอกให้หยุด พร้อมกับเบียดรถให้หยุดรถเกือบเสียหลักล้มก็เบารถลง ทันใดนั้นชายหนุ่มที่สวมหมวกไอ้โม่งคลุมศีรษะ ได้ใช้มีดจี้บังคับให้ลงข้างทางป่ายูคาลิปตัสพร้อมกับดึงกุญแจรถออกไป
ชายคนดังกล่าวบอกว่าตัวเองไปทำร้ายน้องสาวเขาทำไม เป็นทอมใช่ไหม? ตนบอกว่า “หนูเป็นผู้หญิงไม่ใช่ทอมไม่เคยทะเลาะกับใคร และไม่รู้จักว่าใครคือน้องสาวของพี่”
จากนั้นไอ้โม่งได้พูดจาเกรี้ยวกราดพร้อมกับมีดที่อยู่ในมือที่ตัว ไว้ตลอดเวลา ถกเถียงกันอยู่นานไอ้โม่งบังคับให้ตนขึ้นไปนั่งข้างหน้ารถ จยย.ของตนเอง ขณะที่ไอ้โม่งขึ้นคร่อม จะขับออกจากที่เกิดเหตุไป โดยทิ้งรถคันเก่าๆ ของไอ้โม่งไว้ริมทาง
ตนเองกลัวไปหมด จึงทำใจดีสู้เสือ ไม่นั่งเบาะด้านหน้าแต่นั่งซ้อนด้านหลัง ไอ้โม่งบังคับให้ขึ้นรถไปโดยดี ซึ่งตนเองพยายามตั้งสติและเมื่อได้จังหวะก็สะบัด เพื่อให้ตัวเองพ้น รถ จยย.ที่ไอ้โม่งขี่มาเกิดเสียหลักและมีการถกเถียงกันอยู่บนถนนตนเองลื่นล้มบาดเจ็บที่ไหล่ขวายาวไปถึงเอว
พลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาถามว่า “มีอะไรกันรึเปล่า” ไอ้โม่งบอกว่า “ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผัวเมีย” พลเมืองดีจึงขับรถผ่านไป ยิ่งทำให้ตัวเองหวาดกลัวมากขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อสบโอกาสได้กึ่งเดินกึ่งวิ่งสลับฟันปลาเพื่อไม่ให้ไอ้โม่งที่ขับรถตามมาบนถนนเข้าถึงตัวได้
ต่อมามีรถบรรทุก 6 ล้อวิ่งผ่านมาพบเห็นจึงได้หยุดรถและถามว่ามีเรื่องอะไรกัน จึงรีบวิ่งออกไปหน้ารถ แล้วร้องตะโกนบอกว่า “ช่วยหนูด้วย มันจี้หนู มันจะฆ่าหนู” และวิ่งขอความช่วยเหลือ วิ่งมาถึงหมู่บ้านคลองเจ้าแรง ระทาง 500 เมตร พร้อมร้องให้คนช่วย ไอ้โม่งจึงทิ้งรถ จยย. วิ่งหนีไป ชาวบ้านจึงการช่วยเหลือติดต่อทางบ้านให้มารับตัวกลับไป
น.ส.เอมอรยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องกับใคร คาดว่าไอ้โม่งน่าจะดักดูลาดเลาหลายวันแล้ว เคยมีผู้หญิงถูกไอ้โม่งดักจี้ทำร้ายมาแล้ว 4 ราย แต่ไม่กล้าเปิดเผย
ด้านนายวิชัย อินทร์เคน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านคลองเจ้าแรง ที่ออกมาช่วยเหลือ กล่าวว่า ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันและเสียงดังเข้ามาเรื่อยๆ จึงพากันออกมาดูและถามว่ามีเรื่องอะไรกัน หญิงสาวบอกมีคนดักจี้ จึงติดต่อให้ญาติมารับตัวกลับบ้าน คาดว่าไอ้โม่งน่าจะเฝ้าดูต้นทางไว้แล้วว่ามีผู้หญิงคนไหนที่ขับรถมาเวลานี้ และมาคนเดียว จึงวางแผนขับรถไล่ประกบตามเพื่อชิงทรัพย์ หรือหวังอย่างอื่น นับว่าโชคดีที่หญิงสาวไม่ได้ถูกทำร้ายไปมากกว่านี้
