โฆษกมาราปาตานี จี้ถามรัฐไทย จริงใจสร้างสันติภาพหรือไม่ หลังกระบวนการไร้ความต่อเนื่อง
หลังจากคณะกระบวนการพูดคุยสันติสุขชุดล่าสุด ได้ออกหนังสือถึงความคืบหน้าการพูดคุยกับทาง กลุ่ม BRN ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ใจความว่า คณะทำงานทางเทคนิคได้พูดคุยกับคณะผู้แทนของ BRN
ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมี ตันชรี อับดุล ราฮิม บิน โมฮัมหมัด นอร์ เป็นผู้อำนวยความสะดวก ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการพูดคุยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และประเด็นหัวข้อสารัตถะสำหรับการพูดคุยครั้งต่อไป คือการลดความรุนแรง และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การพูดคุยในครั้งนี้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของทั้งสองฝ่าย เพื่อรักษาความต่อเนื่องของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่น โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องให้มีการปรึกษาหารือร่วมกันผ่านระบบการประชุมทางไกลอย่างสม่ำเสมอ อันจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป
ล่าสุด วันนี้ (5 ก.พ.) ทางกลุ่มขบวนการอีกหลายๆกลุ่ม ได้มีการประชุมและสรุปท่าทีต่อสถานการณ์ความคืบหน้าในกระบวนการพูดคุยด้วย โดย อาบูฮาฟิส อัลฮากิม โฆษกกลุ่มมาราปาตานี ได้แถลงผ่านสื่อออนไลน์ว่า
ด้วย Peace Dialogue Process..
“กระบวนการสันติภาพ น่าจะมีการต่อเนื่อง เพราะได้เป็นวาระแห่งชาติแล้ว (National Agenda)
การพูดคุยรอบนี้กับ BRN เสมือนเป็นการนับหนึ่งใหม่ วกวนอยู่กับที่ ทั้งๆที่ได้เคยคุยมาแล้วปี 2013 ทำให้มีคำถามว่า รัฐไทยใฝ่หา สันติภาพ/ สันติสุข จริงหรือไม่ ? หากจะมีการพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆอีก ใน อนาคตจะเป็นการ นับหนึ่งใหม่หรือไม่?
รอบที่แล้ว (ไทย- มารา) ถึงจุดที่ทั้งสองฝ่าย ตกลงจะจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย( safety zones)แต่ติดอยู่กับ ปัญหาการลงนาม จึงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
รอบนี้ไทยกับ BRN น่าจะเริ่มที่ การพิจารณาหยุดยิง (cease-fire / cessation of hostilities) ให้ได้ก่อน แล้วจะได้เริ่ม คุยเรื่องสาระสำคัญ (substantive issues) จึงถือว่าได้มีการสานต่อ และคืบหน้า
ขณะนี้ ไทย กับ BRN วกกลับมาอยู่ในขั้นตอน confidence building (อีกครั้ง) ซึ่งสำหรับ มาราฯก็ได้ทำมาก่อนแล้ว 2-3 ปี จนได้ มีความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันในระดับหนึ่ง ดังนั้น มาราฯ จะเปิดทางให้ ไทย-BRN คุยกันไปก่อน เมี่อถึงเวลาอันควร ถึงจุดที่ จะต้องคุยเรื่อง substantive issues มาราฯก็จะร่วมโต๊ะอีกครั้ง ในฐานะที่ยังเป็น ส่วนหนึ่งของกระบวนการพูดคุย ยังเป็นหนึ่ง ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเพื่อ สอดคล้องกับการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายอีกด้วย
