รักแท้แพ้โควิด! หนุ่มกัมพูชา ทำงานเก็บค่าสินสอด ไม่รอด ถูกจับขณะลอบกลับประเทศ

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 - 11:34 น.

รักแท้แพ้โควิด! หนุ่มกัมพูชา ทำงานเก็บค่าสินสอด ไม่รอด ถูกจับขณะลอบกลับประเทศ

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สามหนุ่มกัมพูชาทำงานอยู่ในไทย 5 ปีหอบเงินค่าสินสอด จะกลับไปแต่งงานกับคนรักในประเทศกัมพูชา ช่วงตรุษจีน จ้างคนไทยขับแท็กซี่จากแปดริ้ว มาส่งที่ชายแดนสระแก้ว ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย 1205 จับได้ขณะกำลังจะข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติ เบื้องต้นรับสารภาพจ่ายค่ารถแท็กซี่คนละ 1,000 บาท

พันเอก เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้รับคำสั่งจาก พลตรีอมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ให้ทำการป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมาย และการลักลอบนำเอาสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ข้ามชายแดนทางด้านจังหวัดสระแก้วในช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างเข้มงวด

จึงได้สั่งการให้ พันโท ณัฐพล ม้วนเงิน รองผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และพันตรีชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 1205 ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนอย่างเข้มงวด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบ้านหนองสังข์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนธนวิถีหมายเลข 358 สาย อรัญ-ตราพระยา พบรถแท็กซี่ต้องสงสัยวิ่งเข้ามาที่จุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นรถแท็กซี่คันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นพบว่ามีนายพายัพ เจริญศรี อายุ 63 ปี เป็นคนขับ

ภายในรถมีชาวกัมพูชาจำนวน 3 คนนั่งโดยสารมาด้วย โดยชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนมีหนังสือเดินทางแต่หมดอายุแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวทั้งหมด มาสอบสวนและคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กองร้อยทหารพราน 1205 อย่างละเอียด

จากการสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ชาวกัมพูชาทั้ง 3 คน ยอมรับว่าได้เดินทางเข้ามาทำงานก่อสร้างที่ จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเวลา 5 ปีแล้ว หลังจากเก็บเงินได้เป็นที่พอในและพอกับค่าสินสอด ซึ่งพวกตนนัดหมายกับแฟนสาวและญาติๆ ในประเทศกัมพูชาว่า ในช่วงตรุษจีนปีนี้ จะเดินทางไปแต่งงานตามที่รับปากไว้ ขอให้ญาติๆ เตรียมจัดงานแต่งไว้รอได้เลย

หลังจากนัดหมายกับแฟนและญาติๆแล้วพวกตนก็ติดต่อให้คนไทย มารับไปส่งที่ชายแดนไทยกัมพูชาทางด้านจังหวัดสระแก้ว

เมื่อถึงชายแดนแล้วพวกตนก็จะลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติกลับไปฝั่งประเทศกัมพูชา แต่มาถูกจับเสียก่อน ส่วนนายพายัพ ยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากคนขับวินเมอร์เตอร์ไซค์ ในอำเภอโคกสูงให้มารับชาวกัมพูชาทั้ง 3 คนที่บริเวณหน้าแคมป์คนงานก่อสร้าง ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อพามาส่งที่ชายแดนอำเภอโคกสูง โดยได้เงินค่าโดยสาร จากชาวกัมพูชาคนละ 1,000 บาท ทำมาหลายครั้งแล้ว

หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ “ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป