คนบ้านกระเจายันเอง! ‘ครูปรีชา’ ดื่มน้ำแร่โซดา ชี้รสชาติหวานซ่า เหมือนน้ำบริสุทธิ์ผสมแร่ธาตุ – ขอบคุณกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้ามาช่วยเหลือ หลังพื้นที่แห้งแล้งมานาน
วันนี้ 25 ก.พ.64 บรรยากาศที่พุบาดาลโซดา บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ ทยอยเดินทางมาเที่ยวชมและชิมน้ำแร่กันเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับถ่ายภาพคู่กับพุโซดาและเซลฟี่เก็บไว้เป็นที่ระลึก ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักตลอดทั้งวัน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี) ได้ตั้งโต๊ะให้ทุกคนได้ลงทะเบียน รวมทั้งวัดอุณหภูมิในร่างกายและให้ทุกคนล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยโดยเจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ประชาชนได้ทดลองชิมน้ำแร่ดิบจากพุที่ยังไม่ผ่านการกรองคนละ 1 แก้ว หรือในปริมาณ ไม่เกิน 50 ซีซี เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้นำภาชนะมาบรรจุน้ำกลับบ้าน เพราะเกรงเรื่องของอันตรายต่อร่างกายหากดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไป และหลังจากที่ทุกคนได้ทดลองดื่มน้ำแร่โซดาเข้าไปต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำมีรสชาติหวานและซ่าคล้ายโซดา
ในส่วนของจุดผลิตน้ำดื่มจากแหล่งน้ำพุโซดา ที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพน้ำแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนนำขวดพร้อมดื่มขนาด 500 มิลลิลิตร ซึ่งทางกรมฯ ได้จัดเตรียมไว้ให้ มารองน้ำกลับไปดื่มได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำภาชนะมาใส่เอง เพราะเกรงเรื่องของสุขอนามัย โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดระเบียบประชาชน ให้ทยอยเข้ารับน้ำดื่มจากแหล่งน้ำพุโซดาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขณะที่ทางท้องถิ่นได้จัดให้มีการลงทะเบียนเพื่อจัดระเบียบร้านค้า ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งวางขายอาหาร น้ำดื่ม และผัก-ผลไม้ รวมทั้งสินค้าประเภทต่างๆ กว่า 130 ร้านแล้ว ซึ่งสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามคาดว่า ในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมและชิมน้ำแร่โซดามากกว่าทุกๆ วันที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ยังคงเปิดให้ได้เที่ยวชมและชิมต่อไปอีก โดยยังไม่ได้มีกำหนดปิดแต่อย่างใด ซึ่งจะเปิดให้ได้เที่ยวชม ชิมและรับน้ำกลับไปดื่มตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. ของทุกวัน
และเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เจ้าของคดีดัง หวย 30 ล้าน ที่มีวลีฮิตติดปากว่า ‘ความจริงคือความจริง’ ก็ได้เดินทางมาเที่ยวชมและทดลองชิมน้ำแร่จากพุแห่งนี้
“เหมือนได้กินน้ำบริสุทธิ์ที่ผสมแร่ธาตุที่มีคุณค่า และก็รู้สึกหวานซ่าเหมือนน้ำโซดา” ครูปรีชา กล่าว
ครูปรีชา เปิดเผย ตนเป็นคนห้วยกระเจา ซึ่งตนเกิดที่นี่ ปัจจุบันพ่อแม่ก็อาศัยอยู่ที่นี่ โดยมีอาชีพไร่ และมีที่ดินอยู่ใกล้เคียงกับพุโซดาแห่งนี้ ห่างจากจุดนี้ไปไม่มากนัก หลังจากที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้มาทำการขุดเจาะจนพบน้ำแร่ที่ดีที่สุดในไทย ก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างมาก และถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นมงคล เพราะตั้งแต่เกิดมาก็พบว่าอำเภอห้วยกระเจาเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งมาก ชาวบ้านจะทำนาทำไร่ ต้องรอน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ขณะที่ฝนก็ไม่ค่อยตกตามฤดูกาล อีกทั้งในพื้นที่ก็ไม่มีระบบชลประทาน
ครูปรีชา ระบุว่า ต้องขอบคุณกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่มาเจาะน้ำบาดาลที่มีแร่ธาตุครบ เป็นความดีใจและภูมิใจของชาวอำเภอห้วยกระเจา และต่อจากนี้ไปพวกเราจะมีน้ำกินน้ำใช้ และจะไม่แห้งแล้งอีกต่อไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจพบว่า แอ่งน้ำพุโซดา ห้วยกระเจา มีขนาดความกว้างประมาณ 2 กิโลเมตร ความยาว 23 กิโลเมตร คิดเป็นปริมาณน้ำกว่า 500 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงคาดว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก และเพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเขตอำเภอห้วยกระเจา ที่ต้องประสบภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ทั้ง นี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีแผนจะดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาลให้ครบตามจำนวนที่กำหนด ในแผนงานโครงการที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำของประชาชนในพื้นที่
โดยมีเป้าหมายดำเนินการ 2 พื้นที่ คือ บ้านพยอมงาม หมู่ที่ 12 ตำบลห้วยกระเจา จะมีประชากรที่ได้รับประโยชน์ 2,369 คน รวม 709 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรที่ได้ประโยชน์ 3,000 ไร่ มีปริมาณน้ำให้ใช้ประโยชน์รวม 700,800 ลูกบาศก์เมตรต่อปี และบ้านทุ่งคูณ หมู่ที่ 19 ตำบลห้วยกระเจา จะมีประชากรที่ได้รับประโยชน์ 4,989 คน รวม 2,015 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรที่ได้ประโยชน์ 3,000 ไร่ มีปริมาณน้ำให้ใช้ประโยชน์รวม 1,051,200 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
