ดำทั้งหาด! ปรากฏการณ์สาหร่ายทะเลถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง ทำ 2 หาดดังกระบี่เป็นสีดำ
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่บริเวณหาดอ่าวนางและหาดนพรัตน์ธารา ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด เกิดปรากฏการณ์ประหลาด เมื่อชายหาดทั้ง 2 แห่งซึ่งอยู่ติดกัน ระยะทางยาวรวมกว่า 500 เมตร พบว่าพื้นหาดทรายตลอดทั้งแนวหลายเป็นสีดำทั้ง 2 หาด เนื่องจากมีซากของสาหร่ายทะเลถูกคลื่นซัดลอยเข้ามาเกยอยู่เต็มทั้ง 2 หาด ทำให้สภาพพื้นที่หมดความสวยงาม จากเดิมที่เป็นหาดทรายขาว นอกจากนี้ยังมีบางจุดที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่า เนื่องจากมีซากของสัตว์ทะเลบางชนิด ติดขึ้นมากับสาหร่ายและเริ่มเน่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านที่อยู่อาศัยมานานกว่า 30 ปี ยังไม่เคยพบเจอ แต่ทุกปีในช่วงนี้จะมีสาหร่ายชนิดนี้ลอยมาเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีมากขนาดนี้มาก่อน นายประยูร พงศ์พันธ์ หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จึงระดมกำลัง จนท.ของอุทยานฯ กว่า 100 นาย พร้อมด้วย จนท.จาก อบต.อ่าวนาง และขอความร่วมมือจากพนักงานของสถานประกอบการหน้าหาด ช่วยกันระดมเก็บกวาดเศษสาหร่ายดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้า โดยนำเอารถไถขนาดเล็กมากวาดซากสาหร่ายบนผิวหน้าดินออกทั้งหมด
นายประยูรกล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาในระยะ 4-5 วันที่ผ่านมา ซึ่งก่อนนี้ จนท.ของอุทยานฯ ก็ระดมเก็บกวาดกันไปแล้วครั้งหนึ่งที่หน้าหาดนพรัตน์ธารา แต่มาวันนี้กลับพบว่ายังมีสาหร่ายถูกคลื่นซัดเข้ามาอีกจำนวนมาก ถือว่ามากสุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งสาหร่ายชนิดนี้เป็นสาหร่ายในกลุ่มสาหร่ายเขียว หรือกลุ่มเดียวกับตะไคร่น้ำ จะมาเป็นปกติทุกปีในช่วงนี้ แต่ในปีนี้ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยเจอ ซึ่งจากการสอบถามนักวิชาการ เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้สาหร่ายถูกคลื่นซัดเข้ามามากในปีนี้ น่าจะมีผลกระทบมาจากอุณหภูมิของน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งสาหร่ายชนิดนี้โดยธรรมชาติจะเกาะอาศัยอยู่ตามโขดหินแนวปะการังใต้ทะเล เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น สาหร่ายก็จะตายหลุดออกจากโขดหิน และถูกกระแสคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง บางส่วนก็จะติดเอาสัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการังมาด้วย แต่โชคดีที่สาหร่ายชนิดนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อคน เพราะไม่มีพิษ ไม่มีภัย แค่ทำให้สภาพพื้นที่หมดความสวยงาม ก่อนนี้สามารถเก็บกวาดไปได้แล้วมากกว่า 3-4 ตัน และจะเร่งเก็บกวาดที่เพิ่งมาเพิ่มให้หมดโดยเร็ว
