ผู้ว่าฯนครพนมสั่งพักราชการ ตั้งกรรมการสอบกำนันเที่ยวผับ ชักปืนยิงกราด หลังตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก บาดเจ็บ 4 ราย หวิดดับ หลักฐานวงจรปิดมัดแน่น ด้านภรรยายอมรับสภาพ เผยสามีไม่ใช่คนชอบหาเรื่อง พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย ตำรวจค้านประกันตัวนำเสนอฝากขังศาล
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม จากกรณี นายไพศาล แสงนาราย อายุ 58 ปี กำนันตำบลนางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม เมาสุราก่อเหตุใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยิงกราดภายในร้านเหล้าชื่อดัง ริมถนนบ้านแพง-นครพนม ในเขตเทศบาล ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 4 ราย เบื้องต้นอาการปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบ จับกุมดำเนินคดี พร้อมเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและภาพบันทึกกล้องวงจรปิด ผู้ก่อเหตุเมาขาดสติ จึงนำอาวุธปืนเข้าไปยิงกราดภายในร้าน ทั้งหมด 8 นัด โดยสาเหตุมาจากเมาสุราขาดสติและไม่พอใจที่พนักงานร้านมาแจ้งให้เคลื่อนรถยนต์ที่จอดผิดที่
ล่าสุดในส่วนของการเอาผิดทางวินัย ทางด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ได้มีคำสั่งให้ทางอำเภอบ้านแพงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และสั่งพักราชการไว้ก่อน และแต่งตั้งคนทำหน้าที่แทน ควบคู่กับการดำเนินคดีของตำรวจ ซึ่งหากมีพยานหลักฐานชัดเจน จะได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการ ตามระเบียบกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีอาญาให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ด้านนางกาใส แสงนาราย อายุ 57 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติสามีเป็นคนขยันทำงานเลี้ยงครอบครัว และช่วยเหลือทำงานสังคมร่วมกับชาวบ้านมาตลอด ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับใคร แต่เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับสภาพว่าอาจมาจากความเมา โดยตนพร้อมที่จะดูแลชดเชยเยียวยาผู้เสียหาย ส่วนเรื่องการประกันตัวจะได้ขอประกันตามขั้นตอนต่อไป
ส่วน นายสังคม ปึกแก้ว อายุ 62 ปี สารวัตรกำนัน ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม เปิดเผยว่า รู้จักสนิทสนมดูแลช่วยงานกับกำนันไพศาล มานานกว่า 10 ปี กำนันจะเป็นคนที่ขยัน ไม่มีนิสัยนักเลง หรือกร่าง จะมีบ้างหากดื่มสุรา สังสรรค์ แต่ปกติจะไม่หาเรื่องใครก่อน แต่เคยมีถ้าเมาสุรา ถ้ามีคนมากวนใจจะไม่ยอมคน เชื่อว่าต้นเหตุสำคัญมาจากเมาจนขาดสติ เพราะส่วนหนึ่งกำนันไพศาล ถ้าเมาจะเปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่ชอบให้ใครมาสั่งการและทำให้รำคาญใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง จะนำนายไพศาล แสนนาราย กำนันปืนดุไปฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ต่อศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหา 1.พยายามฆ่า 2.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ 3.ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยคัดค้านการประกันตัว แต่ทางญาติก็เตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตามสิทธิเช่นเดียวกัน
