ศาลปกครองสงขลาพิพากษายกฟ้อง กรณีชาวบ้านเทใจให้เทพา ฟ้องศาล 3 หน่วยงานรัฐละเมิด สลายการชุมนุม กรณีเดินเท้าจากอำเภอเทพา ไปยังอำเภอเมืองสงขลา เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2560 โดยชาวบ้านเตรียมที่จะอุทธรณ์ต่อ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 เมษายน ศาลปกครองสงขลา มีคำพิพากษายกฟ้อง กรณีตัวแทนชาวบ้านเครือข่ายเทใจให้เทพา ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้าน ที่รวมตัวคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยื่นฟ้อง 3 หน่วยงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก และจังหวัดสงขลา โดยเจ้าหน้าที่รัฐในสังกัดทั้งสามร่วมกันเข้าสลายการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามแนวทาง และขั้นตอนปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558
จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม กิจกรรมเดินเทใจให้เทพา เดินหานายก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 โดยมีการจับกุมแกนนำ พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินของชาวบ้านจำนวนหนึ่ง แม้ตัวแทนของชาวบ้านจะมีข้อโต้แย้งในหลายประเด็น แต่ก็เคารพในคำพิพากษาของศาล โดยเตรียมที่จะหารือว่าจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองภายใน 30 วัน หรือไม่
นายกฤษดา ขุนณรงค์ ทนายความเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้ กล่าวว่า ศาลปกครองสงขลา มีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า การชุมนุมในครั้งนี้ไม่ได้มีการขออนุญาตการชุมนุม ตามพรบ.การชุมนุม สาธารณะ พ.ศ 2558 ในขณะที่ชาวบ้านมองว่า การเดินเท้านั้นไม่ได้เป็นการชุมนุม จึงได้ไม่ยื่นขออนุญาตก่อน 24 ชั่วโมง แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ทราบก็ได้ดำเนินการยื่นขออนุญาตทันที
แต่ศาลมองว่าเมื่อไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า ก็ถือเป็นการชุมนุมโดยมิชอบ ส่วนการใช้กำลังสลายการชุมนุมนั้น เจ้าหน้าที่กระทำการตามมาตรา 21 พ.ร.บ.การชุมนุมฯ ที่ให้มีการดำเนินการตามความเหมาะสม เนื่องจากเข้าใจว่าชาวบ้านจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ประชุม ครม.ในขณะนั้น จึงต้องดำเนินการยุติการชุมนมเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
