ผู้ว่าฯตราด เข้มนักท่องเที่ยวเข้าพัก โรงแรม รีสอร์ต ต้องมีใบรับรองแพทย์ ยืนยันไม่มีเชื้อโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตราด ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดตราด ที่ 649/2564 ลงวันที่ 17 เม.ย.64 ออกมาตรการเพิ่มเติมเร่งด่วน เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการสกัดกั้นและระงับยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ทันท่วงที โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ดังนี้
1.ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคในทุกพื้นที่ของจังหวัดตราดเป็นการชั่วคราว ได้แก่ สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด สถานที่เล่นการพนัน บ่อนการพนันทุกประเภท รวมทั้งห้ามใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียน สถาบันการศึกษาทุกประเภทในการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม
2.ร้านอาหาร ให้รับประทานอาหารภายในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. แต่ห้ามจำหน่ายและดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
3.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการได้จนถึงเวลา 21.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และห้ามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
4.การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ขอให้ประชาชนเลื่อนหรืองดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยงหรืองานรื่นเริงในช่วงนี้ก่อน
5.ชายหาดทุกแห่ง ให้ปิดตั้งแต่เวลา 20.00-06.00 น.ของวันถัดไป ยกเว้นผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน
6.ประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด(พื้นที่สีแดง) 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ ตาก นครปฐม นครราชสีมา นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี และอุดรธานี ขอความร่วมมือให้รายงานตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ผู้นำชุมชน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ทำแบบประเมินความเสี่ยง รวมทั้งขอให้หลีกเลี่ยงเข้าไปในชุมชนเป็นเวลา 14 วัน
“กรณีนักท่องเที่ยวที่มาจาก18 จังหวัดพื้นที่สีแดง ที่ประสงค์เข้าพักในโรงแรม ห้องพัก หอพัก ให้นำใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ที่ออกให้ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง มาแสดงต่อผู้ประกอบการโรงแรมที่เข้าพัก และทำแบบประเมินความเสี่ยง รวมทั้งขอให้หลีกเลี่ยงเข้าไปในชุมชนเป็นเวลา 14 วันด้วย”
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พรบ.โรคติดต่อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนนี้ จนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2564
