สสจ.อุตรดิตถ์ หนุนล็อกดาวน์ประเทศ คุมระบาดโควิด อุตรดิตถ์ออกประกาศ งดงานเลี้ยง-รื่นเริง-สังสรรค์ ที่รวมกลุ่มกว่า 50 คน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตรดิตถ์ กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ จ.อุตรดิตถ์ว่า ข้อมูลล่าสุดวันที่ 28 เมษายน ในระลอก 3 หรือช่วงเดือนเมษายน ยอดสะสม 59 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 51 ราย และรักษาหายแล้ว 8 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เป็นรายที่ 55 เพศชาย อายุ 31 ปี พนักงานหน่วยงานของรัฐ รายที่ 56 เพศหญิง อายุ 61 ปี อาชีพเกษตร และ รายที่ 57 เพศหญิง อายุ 84 ปี ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เป็นชาว ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ป่วยติดเชื้อของ จ.หนองคาย ที่เดินทางมาร่วมงานบวช และฉลองพระใหม่ ที่วัดวังแดง อ.ตรอน เมื่อวันที่ 9-10 เมษายนที่ผ่านมา
เช็กจากไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อรายที่ 55 นั้น พบว่าไปในหลายพื้นที่ของ จ.อุตรดิตถ์ ทั้งรดน้ำดำหัวญาติ รับประทานอาหารร่วมกับพ่อแม่แฟนที่มาจากกรุงเทพฯ และเพื่อนที่มา จ.ชลบุรี รวมถึงเที่ยวหาดผาเต่า อ.ท่าปลา หาดริมน้ำน่านที่ประชาชนนิยมไปพักผ่อนคลายร้อน ของ จ.อุตรดิตถ์
ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 57 เป็นคุณยายวัย 84 ปี ที่มีอาการหอบหืด นับเป็นผู้ติดเชื้ออายุมากที่สุดของ จ.อุตรดิตถ์
“ผ่านไป 20 วัน ของการระบาดโควิดระลอกใหม่ จ.อุตรดิตถ์ เฉลี่ยพบผู้ติดเชื้อวันละ 2 คน และเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงสูงเชื่อมโยงผู้ติดเชื้อรายเก่า ในอนาคตอันใกล้นี้เชื่อว่า จ.อุตรดิตถ์ อาจมีตัวเลขจำนวนของผู้ป่วยทะลุถึง 100 รายแน่ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนใส่ใจดูแลตัวเอง อย่าเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อ สวมหน้ากากอนามัย 100 % ที่สำคัญให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีการสอบสวนโรคอย่างละเอียด ไม่ปกปิด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วในการระงับการแพร่ระบาด ของเชื้อโควิด และเมื่อรู้ว่าใกล้ชิดผู้ติดเชื้อให้พบหรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว ถ้าถามแพทย์พยาบาลทั่วประเทศ คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะมีการล็อกดาวน์ประเทศจะเป็นการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่า มาตรการคุมการเคลื่อนย้ายคนนั้นปัจจุบันทำได้ยาก จึงเป็นสาเหตุหลักของการทำให้เชื้อแพร่มากขึ้น” นายแพทย์เกษมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ เรื่องการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ฉบับที่ 12) งดการจัดกิจกรรมทางสังคม ในลักษณะที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากกว่า 50 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาต งดการรับประทานอาหารร่วมกันโดยเฉพาะผู้ที่มีญาติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ประชาชนต้องห้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดโดยยึดหลักตามมาตรการ DMHTTA
