ตลาดของป่าคึกคัก หลังฝนมา ชาวบ้านหาของขายทำเงินหลักหมื่นช่วงโควิด (มีคลิป)

ตลาดของป่าคึกคัก หลังฝนมา ชาวบ้านหาของขายทำเงินหลักหมื่นช่วงโควิด

นครพนมฝนเริ่มมาตลาดของป่าเริ่มคึกคัก สร้างรายได้ สู้โควิด ไข่มดแดง แมงแคง จักจั่น อึ่งอ่าง กบเขียด สารพัดเมนู ทำเงินสะพัด ตามไปดูเส้นทางล่าแมงแคงในป่า แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน นำมาปรุงเมนูเด็ดหายาก รสชาติสุดเด็ดแมงแคงตำแจ่ว หนึ่งปีมีครั้งเดียว สร้างรายได้กิโลละกว่า 2,000 บาท ตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดระบาด ทำให้ธุรกิจหลายอย่าง ได้รับผลกระทบมีลูกค้าลดลง แต่สำหรับอาชีพหาของป่าหายาก นำมาวางขายตามตลาดสดต่างๆ ยังถือว่า คึกคัก เพราะยังเป็นที่ต้องการของลูกค้านำไปปรุงเป็นเมนูเด็ดอีสาน โดยเฉพาะช่วงนี้เริ่มมีฝนตกลงมาทำให้เมนูเด็ดของป่าหายาก สามารถหาได้ง่ายมากขึ้นตามฤดูกาล ส่งผลให้ตามตลาดของป่าหลายแห่ง คึกคักไปด้วย ของป่า หลากหลายชนิดสร้างเงินหมุนเวียน สะพัด ให้ชาวบ้านในช่วงโควิดระบาด

Advertisement

เช่นเดียวกันกับตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม ถือว่าเป็นตลาดศูนย์รวมสินค้าของป่าหายากพื้นบ้าน ตามฤดูกาล ทำให้ช่วงนี้ มีชาวบ้านนำของป่ามาวางขายคึกคัก อาทิ ไข่มดแดง แมงแคง จักจั่น อึ่งอ่าง ผักหวาน กบ เขียด กิ้งก่า ดอกกระเจียว หน่อยไม้ เห็ด สารพัดเมนู สร้างรายได้เงินหมุนเวียนสะพัดวันละหลาย 10,000 บาท ถือว่าสร้างรายได้ดี ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาด โดยเฉพาะแมงแคง ในช่วงนี้ถือว่า เป็นเมนูเด็ดที่สร้างรายได้ดีพอสมควร และเป็นเมนูหายากเป็นที่นิยมของชาวบ้าน นำไปปรุงเป็นเมนูเด็ด มีราคาซื้อขายตกกิโลกรัมละ 2,000 บาท หากเฉลี่ยเป็นตัว ตัวใหญ่จะตกประมาณตัวละ 1 -2 บาท พ่อค้าแม่ค้า บางรายขายได้วัน 4,000 – 5,000 บาท

จากการลงพื้นที่ตามเส้นทางการล่าแมงแคง ถือว่าต้องใช้ความชำนาญพอสมควรและหายากสมราคาขาย โดยชาวบ้าน จะใช้ความชำนาญ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สืบทอดกันมา และได้ความชำนาญจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอีสาน โดยจะเดินเลาะป่า ที่เริ่มมีความชุ่มชื้นหลังฝนเริ่มตกลงมา ทำให้ต้นไม้นานาชนิดแตกยอดใบอ่อน ทำให้แมงแคงจะเจริญเติบโตมาจากไข่ ที่แม่พันธุ์ไข่ไว้ตามกกิ่งไม้ พอช่วงฤดูฝนจะฟักออกมาเป็นตัว และเกาะกินใบไม้อ่อน ตามธรรมชาติ แต่จะอาศัยอยู่ในต้นไม้บางชนิดเท่านั้น อาทิ ต้นลำใย ต้นลิ้นจี่ ต้นจิกต้นเต็งรัง และต้นค้อ ส่วนวิธีการจับจะใช้ไม้ไผ่ยาว ฟาดไปตามใบไม้ เพื่อให้แมงแคง ล่วงลงมา และเก็บเอามาขาย บางรายจะใช้วิธีการใช้ไฟส่องตอนกลางคืน และใช้ไม้ฟาดให้ตกลงมาเช่นกัน ซึ่งแมงแคง จะมีทั้งแมงแคงตัวอ่อน และตัวแก่ รสชาติตัวแก่จะมีกลิ่นฉุนมากกกว่าตัวอ่อน ลักษณะกลิ่นฉุนคล้ายแมงดา สำคัญที่สุดหากพื้นที่ป่าไหนแมงแคงเยอะถือว่ายังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และไม่ค่อยมีการใช้สารเคมีทำการเกษตร ทำให้ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์

Advertisement
DCIM100GOPROGOPR5008.JPG

สอบถาม นายสราวุธ ธะณะขาว อายุ 35 ปี เล่าถึงการล่าแมงแคง และสูตรการปรุงเมนูเด็ด ว่า การล่าแมงแคงจะต้องใช้ความชำนาญพอสมควรในการหา แมงแคงที่เกาะบนต้นไม้ และใช้ไม้ฟาดให้ล่วงลงมา และจะต้องเป็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ตามป่าภูพานน้อย อ.นาแก จ.นครพนม ยังมีจำนวนมาก ชาวบ้าน จะออกล่าหาแมงแคงในช่วงต้นฤดูฝน จะมีทั้งแมงแคงตัวอ่อน ตัวแก่ สามารถนำไปขาย ปรุงเป็นเมนูได้ทั้งหมด สิ่งสำคัญที่ต้องระมัดระวัง แมงคง มีกลิ่นฉุน และมีฉี่เป็นพิษ หากถูกเนื้ออ่อนตามร่างกายจะเป็นรอยไหม้แสบร้อน ระวังที่สุดอย่าให้ถูกตาเพราะอันตรายมาก บางปีหายากยิ่งมีราคาแพง ตกกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ตัวใหญ่เฉลี่ยตัวละ 2 บาท สำหรับการปรุงเมนูไม่ยุ่งยาก เพียงนำแมงแคงที่ได้ ตัวใหญ่จะต้องเด็ดปีก และเอาส่วนที่แข็งออก ก่อนนำมาคั่วให้สุก จากนั้นนำพริกสด กระเทียมหัวหอม มาคั่ว เป็นเครื่องปรุงรส พอสุกนำไปโขกตำใส่ครกรวมกันให้ละเอียด สุดท้ายปรุงรสด้วยน้ำปลา ปลาร้า จะได้รสชาติอร่อยลงตัว ส่วนรสชาติจะมีกลิ่นฉุนคล้ายแมงดา แต่อร่อย คนอีสานชอบตำป่น เป็นน้ำพริกกินกับข้าวเหนียม ผักสด ผักลวก ถือเป็นเมนูเด็ดที่หายากรสชาติอร่อยสมราคา แต่ทุกวันนี้เริ่มหายาก เพราะธรรมชาติถูกทำลาย การใช้สารเคมี การทำลายเผาป่า ทำให้เริ่มสูญพันธุ์ จึงต้องช่วยกันดูแล เพื่อความอุดมสมบูรณ์และเป็นการสร้างรายได้เสริมให้ชุมชนอีกทาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image