กองกำลังกะเหรี่ยงยังปะทะทหารพม่า ยิงปืนกลหนักตอบโต้ ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับทหารกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. จนถึงเช้าที่ 5 พ.ค. ทหารเมียนมา ฐานแม่สะล๊อก ได้ยิงปืนกลหนักและ ค.60 ไปยังเป้าหมายด้านทิศใต้ของฐานห่าง ประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนทางด้านทหารกะเหรี่ยงก็ได้มีการตอบโต้ด้วยปืนกลหนักเช่นกัน ไม่ทราบผลการปะทะของทั้งสองฝ่ายแต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อชายแดนของไทย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และกรมทหารพรานที่ 36 ยังคงเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
สำหรับที่บ้านแม่สามแลบ หมู่ 1 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย หลังจากที่ชาวบ้านได้กลับจากพื้นที่ปลอดภัยไปยังบ้านของตนเองแล้ว โดยช่วงเช้า ชาวบ้านโดยเฉพาะเจ้าของร้านค้าต่างๆ พากันเปิดร้านค้าขายของตามปกติ หลังจากที่มีการปิดร้านและไม่ได้ขายสินค้า ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา สาเหตุมาจากการสู้ระหว่างระหว่างทหารกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ที่ฐานซอเลท่า ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามหมู่บ้านแม่สามแลบ ฝั่งแม่น้ำสาละวิน ต่อมาที่ฐานซอเลท่า ทหารกะเหรี่ยงสามารถยึดฐานดังกล่าวได้และขับไล่ทหารเมียนมาออกจากฐานพร้อมให้กองกำลังทหารกะเหรี่ยงเฝ้ารักษาฐานไว้
จากแหล่งข่าวแม่ค้าในหมู่บ้านแม่สามแลบเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเปิดร้านค้าในวันนี้ถือเป็นวันแรก ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการปิดร้านต่อเนื่องมาแล้ว 8 วัน และวันนี้ก็ได้มีชาวบ้านที่กลับมาจากพื้นที่ปลอดภัยที่ทางการให้เข้าอยู่ชั่วคราวก็ได้พากันมาจับจ่ายซื้อสินค้าโดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พริก เกลือ กระปิ น้ำปลา และผักสด แต่ทั้งนี้ เศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้นมาเท่าใดนัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้มีการสั่งปิดหมู่บ้านและห้ามบุคคลเข้า-ออก อย่างเด็ดขาด ซึ่งอยากจะวิงวอนไปถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้พิจารณาผ่อนผันให้สามารถเปิดหมู่บ้านได้เป็นปกติ เนื่องจากการสู้รบในปัจจุบันไม่ได้เกิดขึ้นที่ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ แต่เกิดขึ้นที่ค่ายด๊ากวินของพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง และอยากให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าให้เหมือนเดิมเศรษฐกิจการค้าขายจะได้กลับมาดีเหมือนเดิม กิจการค้าขายจะได้กลับมาดีเหมือนเดิม
