ผู้ว่าประจวบฯ ออกคำสั่งกักตัว 145 คนงานสับปะรดกระป๋อง ฝ่าฝืนจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน

ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่โรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ที่ต่อเนื่องจากสถานบันเทิงในเมืองหัวหิน พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มลูกจ้างชาวเมียนมา 112 ราย จากการเก็บสารตัวอย่างสารคัดหลั่งผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 257 คน จากนั้นได้นำผู้ป่วยทั้งหมดไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามภายในอาคารโรงเรียนพานิชยการใกล้โรงพยาบาลหัวหิน สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำจำนวน 145 ราย เบื้องต้นตรวจไม่พบเชื้อได้กำหนดให้พักดูอาการภายในอาคารโรงงานเป็นเวลา 14 วัน

วันที่ 7 พฤษภาคม นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปิดเผยว่า ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดที่ 4634 /2564 ตั้งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่โรงงานสับปะรดฯ เพื่อปิดสถานที่ภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องฯ หยุดสายการผลิตชั่วคราว ใช้กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งคนไทยและชาวเมียนมาเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-20 พฤษภาคม 2564 หากมีการผ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ระว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทมหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตาม พรก.ฉุกเฉิน 2548 ตามมาตรา 18 คำสั่งดังกล่าวมอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทำหน้าที่บูรณาการและมอบหมายให้โรงพยาบาลในจังหวัด จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาประจำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ มอบหมายให้นายอำเภอหัวหินจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบล( อบต.) หินเหล็กไฟ รับผิดชอบเบิกจ่ายค่าอาหาร ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการควบคุมการแพร่ระบาด

มีรายงานว่า นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์ สสจ. ได้เดินทางไปโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ฯ เพื่อร่วมกับ อบต.หินเหล็กไฟ ดำเนินการจัดตั้งสถานที่กักตัวภายในโรงงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆในอำเภอหัวหิน บูรณาการความร่วมมือเพื่อกักกันผู้มีความเสี่ยงตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างเข้มงวดห้ามบุคคลผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า-ออกในพื้นที่เด็ดขาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image