สงขลาคลัสเตอร์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด19 ในโรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ใน อ.สะเดา จ.สงขลา 20 คน จากคนงานทั้งคนไทยและต่างด้าวกว่า 2,000 คน เร่งตรวจหาเชื้อทุกคนในขณะที่โรงงานออกมาตรการป้องกันให้คนงานกลุ่มเสี่ยงหยุดงานทันที 7 วัน
สถานการณ์โควิดที่จ.สงขลา ยังไม่นิ่งและยังคงพบการระบาดของโควิดในกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยยอดผู้ป่วยสะสมทะลุ 2,000 คนแล้วและมีผู้เสียชีวิต 12 คน
รายงานข่าวว่าได้เกิดการระบาดของโควิด19 ที่เป็นคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นภายในโรงงานผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ของบริษัท TOP GLOVE ถนนกาญจนวนิช ต.สำนักขามอ.สะเดา จ.สงขลา พบพนักงานติดเชื้อโควิดที่ยืนยันแล้ว 20 คน เริ่มการติดเชื้อมาจากพนักงานหญิงอายุ 27 ปีคนหนึ่ง ในโรงงานแห่งนี้มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 2,000 คน ทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว
วันที่ 11 มิ.ย. นายแพทย์ สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะเดาพร้อมทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูงปราณ 900 คน แยกเป็นพนักงานของโรงงาน 500 คนและชาวบ้านที่เป็นพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อประมาณ 400 คน
นายแพทย์ สุวัฒน์ เปิดเผยว่า คลัสเตอร์โรงงานนี้จะเร่งตรวจเชิงรุกทั้งพนักงานและพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและสัมผัสใกล้ชิด เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่พักอยู่ในเขตเทศบาลตำบลสำนักขามและออกไปซื้อข้าวซื้อของตามร้านค้าต่างๆ จึงต้องเร่งคัดกรองกลุ่มที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยมากที่สุดเพื่อป้องกันการระบาด
“ในขณะที่โรงงาน TOP GLOVE หลังพบพนักงานติดโรควิด19 ออกมาตรการควบคุมและป้องกันทันที เช่นพนักงานคนไทย รายเดือนและรายวัน ห้ามเข้ามาทำงานที่บริษัทโดยเด็ดขาด เบื้องต้นระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-18 มิ.ย. ยกเว้นพนักงานบางรายที่ต้องเข้ามาเคลียงาน ให้เข้ามาเฉพาะวันนี้ และมีการตรวจหาเชื้อพนักงานทุกคนทั้งคนไทยและต่างด้าว และหลังตรวจให้กลับไปกักตัวที่บ้าน ห้ามพนักงานทุกคนที่พักอยู่หอพักภายในบริษัทออกนอกรั้วบริเวณหอพักอย่างเด็ดขาด”
รายงานข่าวว่าพนักงานรายเดือนที่พักบ้านพักบริษัทภายนอก และมีสมาชิกในครอบครัวที่สัมผัสใกล้ชิดและพนักงานที่มีความเสี่ยงต่ำให้กักตัวที่โรงแรมที่จัดไว้ โดยพนักงานที่บริษัทสั่งการให้หยุดทำงาน เป็นเวลา 7 วัน บริษัทจะดีย์ TRIP code ให้กับพนักงานทุกคน
ภาพรวมของโควิด19 ที่ จ.สงขลา พบผู้ป่วยบเพิ่ม 246 คน ในจังหวัด 70 คน ซึ่งอยู่อันดับ 6 ของประเทศ ในเรือนจำ 175 คน และต่างประเทศ 1 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 2,366 คน เสียชีวิต 12 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1,416 คนรักษาตัวในโรงพยาบาล 938 คน
