รอผลพิสูจน์ สาว ศธ.วัย 36 เสียชีวิตอีกรายหลังฉีดวัคซีน แม่ร่ำไห้ เผยลูกสาวกลัว ไม่อยากฉีด

รอผลพิสูจน์ สาว ศธ.วัย 36 ปี เสียชีวิตอีกรายหลังฉีดวัคซีน แม่ร่ำไห้ เผยลูกสาวกลัว ไม่อยากฉีด

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ต้องรอผลพิสูจน์ยืนยันอีกครั้งว่า การเสียชีวิตของ น.ส.ชนัญชิดา กาญจนลักษณ์ หรือเฟื่อง อายุ 36 ปี พนักงานข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หลังฉีดวัคซีนนั้น เป็นผลมาจากวัคซีนหรือสาเหตุใดกันแน่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Peteeta Kikkik KanjanaIuck โพสต์ข้อความถึงการเสียชีวิตของ น.ส.ชนัญชิดา กาญจนลักษณ์ หรือเฟื่อง หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของซิโนแวค เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่จัสตุรัสจามจุรี กทม. ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดโพธิ์เผือก ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ทางครอบครัวจัดพิธีศพของ น.ส.ชนัญชิดา บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

นางอนันต์ กาญจนลักษณ์ อายุ 58 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เผยทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวทำงานเป็นพนักงานราชการกระทรวงศึกษา กทม. มีโรคประจำตัว คือภูมิแพ้ กับไทรอยด์ ถึงลูกสาวจะมีโรคประจำตัวแต่ก็แข็งแรง ไม่ได้ป่วยกระเสาะกระแสะ หรือต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย

Advertisement

เมื่อทางกระทรวงศึกษาธิการที่ลูกสาวทำงานอยู่ให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน ทางลูกสาวบ่นให้ฟังว่าไม่อยากฉีดเพราะกลัว แต่ก็ต้องฉีด เพราะหากติดโควิดจะนำกลับมาติดคนในครอบครัว จึงตัดสินใจลงทะเบียนฉีดวัคซีน แต่ก่อนฉีดวัคซีน ลูกสาวบอกว่าได้แจ้งว่าตนเองมีโรคภูมิแพ้และไทรอยด์ กระทั่งลูกสาวลงทะเบียนฉีดวัคซีนและได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม

นางอนันต์กล่าวว่า กระทั่งกลับมาที่บ้าน ก็เริ่มบ่นว่ามีอาการปวดเมื่อยและมีไข้ ตนจึงบอกว่าคงไม่เป็นไรพักผ่อน เดี๋ยวกินยาก็หาย ลูกสาวเป็นคนอดทนและไม่เคยบ่น จึงทนขับรถไปทำงานที่กรุงเทพฯและกลับมาบ้าน แต่ระหว่างนั้นก็บ่นว่ามีไข้ตลอดเวลา จนมาวันที่ 7 มิถุนายน ลูกสาวมีอาการอ่อนเพลียเดินไม่ไหว จึงไปหาหมอที่ รพ.ราชธานี หมอก็ให้ยามาทาน

จนวันที่ 8 มิถุนายน อาการไม่ดีขึ้น นอนซม ปวดเมื่อยเดินไม่ไหว แย่ลงกว่าเดิม จึงกลับไปหาหมอที่ รพ.เดิม หมอก็ฉีดยาและให้ยากลับมาทาน กลับมาได้ไม่เพียง 1 ชั่วโมง ลูกสาวก็มีอาการชักเกร็ง หัวใจหยุดเต้น จึงต้องช่วยกันปั๊มหัวใจ และเรียกรถฉุกเฉินให้มารับตัวลูกสาวส่ง รพ.ราชธานี ต้องรักษาตัวอยู่ที่ห้อง CCU อาการโคม่า 50/50

Advertisement

นางอนันต์กล่าวว่า กระทั่งคืนวันที่ 10 มิถุนายน เวลา 23.30 น. ลูกสาวเสียชีวิตลง แพทย์ระบุว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดหัวใจตายเฉียบพลัน แต่ญาติยังคงติดใจในการเสียชีวิต เพราะเชื่อว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของลูก น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน จึงนำร่างส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแท้จริง ตนไม่คิดว่าลูกสาวจะมาเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน เนื่องจากลูกสาวเป็นคนแข็งแรง และเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลพ่อแม่ ลูกและหลาน รวม 5 ชีวิต ทำให้ครอบครัวตนเองเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก

“ครอบครัวเชื่อว่าที่ลูกตัวเองเสียชีวิตอย่างกะทันหันนั้นต้องเป็นสาเหตุของการแพ้วัคซีนอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวไม่เคยเป็นอะไร จนกระทั่งไปฉีดวัคซีนกลับมาแล้วก็มีอาการดังกล่าว อยากให้หน่วยงานใดก็ได้ช่วยเข้ามารับผิดชอบชีวิตของลูกสาวตนเองด้วย เนื่องจากลูกสาวตัวเองอายุยังน้อยและมีภาระหน้าที่การงานที่ดีและต้องรับผิดชอบดูแลทั้งครอบครัว” นางอนันต์กล่าว

ด้านนายนพเก้า กาญจนลักษณะ อายุ 19 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในการโศกเศร้า กล่าวว่า หลังแม่ฉีดวัคซีนก็บ่นให้ฟังว่ามีอาการปวดเมื่อย มีไข้ตลอดเวลา มีอาการเบลอๆ แม่ก็บ่นว่าน่าจะมาจากการฉีดวัคซีน กระทั่งแม่มีอาการโคม่าหนักมากถึงขนาดชักเกร็ง หยุดหายใจไปต่อหน้าต่อตาตนเอง ซึ่งตนและคนในบ้านก็พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจแล้ว แต่เมื่อนำไปถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็แจ้งว่าคุณแม่มีโอการโคม่า 50/50 ให้ทำใจ ซึ่งตนและครอบครัวรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้และให้ความเป็นธรรม รวมถึงหาสาเหตุที่แท้จริงให้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียในแบบนี้

ทั้งนี้ ศพของ น.ส.ชนัญชิดา จะมีพิธีบำเพ็ญกุศล 3 วัน และจะทำพิธีฌาปนกิจภายในวันที่ 14 มิถุนายน

ด้าน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทราบในเบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตฉีดวัคซีนใน กทม. และมีโรคประจำตัว อยู่ระหว่างการสอบสวน ตรวจสอบรายละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image