โล่ง! “สุราษฎร์-ภูเก็ต” โควิดไม่น่าห่วง “ศบค.” เดินหน้า ”ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ตอบคำถามการเดินหน้า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ในเดือนกรกฎาคมนี้ หลังพบยอดติดเชื้อเพิ่มขึ้นในวันนี้ จำนวน 4,059 ราย โดยยืนยันว่า แนวทางการเรียนรู้การจัดการกับโรคที่เรารับทราบมา 1 ปีกว่า ๆ เมื่อเกิดขึ้นพื้นที่ตรงไหนเราจะจัดการปิด เฉพาะตรงนั้น
“ถ้ามาดูในพื้นที่จ.สุราษณ์ธานี มีสมุยและพะงันรวมอยู่ด้วย ยอดการติดเชื้อในพื้นที่อยู่ในอันดับที่ 14 ของประเทศ ยังคงเป็นตัวเลขหลักเดียว ในวันนี้พบติดเชื้อ 9 ราย ยอดรวมอยู่ที่ 1,868 ราย แม้แนวโน้มดูเหมือนจะสูงขึ้น แต่ยังเป็นหลักเดียวอยู่ขอขอบคุณพี่น้องชาวสุราษฎร์ ขอให้ท่านดูแลพื้นที่ของท่านได้อย่างดี ไม่ติดเชื้ออะไร และยังคงไปในลักษณะนี้ การทำภูเก็ตแซนด็บ็อกซ์ ก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้”
ส่วนจ.ภูเก็ตในวันนี้อยู่ที่อันดับ 28 ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ยอดรวม 701 ราย ยังเป็นตัวเลขหลักเดียว ก็ขอพลังกายพลังใจพี่น้องภูเก็ต นโยบายของผอ.ศบค.ที่วางไว้ และนำเสนอนโยบายโดยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ก็ยังอยากให้เป็นแบบนั้นอยู่ ฉะนั้น ณ วันนี้ตัวเลขของภูเก็ตที่จะทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็ยังคงนโยบายนั้นได้ ขอให้ทุกคนช่วยกัน
ต่อข้อถามที่ว่า เงื่อนไขหลักการเปิดประเทศที่จ.ภูเก็ต จะมีกรณีอะไรบ้างที่จะเป็นเงื่อนไขให้ยกเลิกภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อจะเป็นเงื่อนไขหรือไม่ โดยนพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยแถลงข่าวไปแล้ว แต่จะพูดอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจที่เคยพูดไว้มีเปิดได้ก็มีปิดได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาด ในที่ประชุมมีการนำเสนอและหยิบมาพูดคุยกันด้วยว่าเพื่อจะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายมีอะไรบ้าง
สำหรับการจัดทำแผนรับมือและแผนชะลอหรือยกเลิกโครงการ ในส่วนของภูเก็ต เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากว่า 90 ราย/สัปดาห์ ลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอและมากกว่า 6 ตำบล มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้าง หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้ ความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย มีผู้ติดเชื้อครองเตียง ตั้งแต่ร้อยละ 80 ของศักยภาพของจังหวัด หรือคนไข้เริ่มล้น จะต้องเริ่มทบทวน หรือมีการพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้าง ควบคุมไม่ได้
ส่วนการจะปิดในทันทีหรือไม่ จะมีมาตรการปรับเปลี่ยน 4 ระดับ ได้แก่ ปรับลดกิจกรรม , Sealed Route เปิดบางพื้นที่ , Hotel Quarantine ให้อยู่ในโรงแรมกักตัวและสุดท้ายทบทวนยุติ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หากมีจำนวนเคสที่มาก เช่นเดียวกับเกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่า หากเกิดการระบาดจนเกินศักยภาพในการรองรับของโรงพยาบาลเกาะสมุย จะต้องพิจารณาดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงที่วางไว้
นพ.ทวีศิลป์กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการเว้นระยะห่างการฉีดวัคซีนเข็มที่1กับเข็มที่2 จะต้อง 12 สัปดาห์หรือ 16 สัปดาห์กันแน่ ยังคงยึด 12 สัปดาห์เป็นตัวเลจหลัก ส่วน 16 สัปดาห์เป็นตัวเลขที่เอาไว้ขยับการบริหารจัดการ ทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องของวัคซีน อาจจะมีหลายเหตุผล เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย การบริหารคนที่มาฉีดเพื่อให้ได้เข็มที่1 กันมากขึ้นด้วย แต่ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วย จะขอเลื่อนเป็น 16 สัปดาห์ก็อยู่ในดุลพินิจของแพทย์
