แม่ชาวบุรีรัมย์ร้องขอความช่วยเหลือ วิทยาลัยประกาศในไลน์กลุ่ม ใครไม่จ่ายค่าเทอมให้ออก

แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกแฝด เรียนวิทยาลัยการอาชีพสตึก บุรีรัมย์ ร้องให้หน่วยงานช่วยเหลือ หลังจากวิทยาลัยส่งหนังสือเตือนทางไลน์กลุ่ม ใครไม่จ่ายค่าเทอมภายในสิ้นเดือนให้พ้นสภาพ เจ้าตัวเผยทำอาชีพขายอาหารอีสาน แต่โดนพิษโควิดต้องหยุด ยอมรับไม่มีทางออก เคยคิดฆ่าตัวแต่สงสารลูก ผอ.ระบุไม่ได้ให้ออกทันที จะต้องมีการตรวจสอบก่อน

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 นางวรรณา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แม่ค้าขายอาหารอีสานในตลาดสดเทศบาลสตึก ร้องเรียนผ่านสื่อว่าอยากให้เป็นตัวกลางเชื่อมไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

หลังจากได้รับหนังสือทวงค่าเทอมจากวิทยาลัยการอาชีพสตึก อ.สตึก ผ่านทางไลน์กลุ่มผู้ปกครองว่า ให้ผู้ปกครองนักเรียนไปลงทะเบียนชำระค่าเทอม โดยให้ผ่อนจ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาท และจะต้องมาดำเนินการจ่ายส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.64 หากนักศึกษาไม่ทำการชำระค่าลงทะเบียนตามเวลาที่กำหนด ทางวิทยาลัยจำเป็นต้องพิจารณาให้นักเรียนนักศึกษาพ้นสภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษา ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษา การประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ.2562 และตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ.2563 หมวด 2 การจัดการเรียนส่วนที่ 2 การลงทะเบียนรายวิชา

นางวรรณาเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเปิดร้านขายอาหารอีสานในคิวรถตลาดสดเทศบาลสตึก หลังจากโรคโควิด-19 ระบาด ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม เพราะจะต้องส่งลูกชายแฝด 2 คน ที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนกีฬา จ.สุรินทร์ ค่าเทอม 3,500 ต่อคนรวมเป็น 7,000 บาท ไม่ร่วมค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิตย์ละ 1,000 บาท จึงไปกู้เงินนอกระบบมาส่งลูกเรียน

Advertisement

หลังจากลูกจบระดับ ม.3 ที่สุรินทร์ ตนจึงให้มาเรียนต่อที่วิทยาลัยการอาชีพสตึก และเริ่มเปิดเรียนวันแรกในวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เพราะต้องปิดร้าน เนื่องจามีเจ้าหนี้รายวันมาทวงทุกวัน ยอมรับว่าท้อมาก หลายครั้งเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่สงสารลูกไม่มีใครดูแล เพราะได้หย่าร้างกับสามีไปแล้ว

ตอนนี้สงสารลูก 2 คนมาก เพราะไม่มีเงินซื้อชุดลูกเสือให้ ทุกวันพุธลูกชายจะต้องหยุดเรียนเพราะไม่มีชุดลูกเสือใส่ แต่ต้องมาเจอปัญหารอบสองคือวิทยาลัยทวงค่าเทอม คนละ 1,850 บาท รวม 2 คน 3,700 บาท ตอนนี้ยอมรับว่าไม่มีทางออก ต้องไปอาศัยกระท่อมทุ่งนาชาวบ้านอยู่ แล้วทำขนมขายหารายได้ประทังชีวิตไปก่อน

ด้านนายวิโรจน์ ทองเรือง ผอ.วิทยาลับการอาชีพสตึก กล่าวว่า หนังสือที่แจ้งไปเป็นระเบียบของทางราชการ เพื่อให้ผู้ปกครองรับทราบ จริงๆ แล้วจะต้องมีการสอบถามถึงความจำเป็นว่าติดปัญหาด้านใดบ้างเพื่อหาแนวทางการแก้ไข

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image