เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นางธนาวดี ห้อยลา เดินทางไปยัง สภ.กบินทร์บุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแทนลูกชาย กรณีที่วานนี้ (7 สิงหาคม) ลูกชายได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าโดนทำร้าย พร้อมโพสต์ภาพใบหน้าตนเองถูกทำร้าย พร้อมรอยเลือดจำนวนมาก
นางธนาวดีกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อจะแจ้งความให้กับลูกชายที่กำลังเข้ารับการรักษาอยู่ที่ รพ.กบินทร์บุรี ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามตัว บริเวณใบหน้าด้านซ้ายกระดูกแก้มแตก ที่มาในครั้งนี้เพราะกลัวว่าลูกชายของจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทางคดีต้องรอให้ลูกชายหายแล้วค่อยมาแจ้งความอีกที คิดว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะทำกันรุนแรงถึงอย่างนี้ มีอะไรน่าพูดคุยกันดีๆ ก็ได้ ถึงแม้ถ้าลูกตัวเองผิดก็ไม่น่าจะทำกันขนาดนี้และลูกตัวเองก็มาคนเดียว ทำไมถึงยกพวกมาทำร้ายกันเหมือนไม่ใช่คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามไปยังนายพีระพัฒณ์ ห้อยลา อายุ 23 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า วันเกิดเหตุกำลังขับรถไปทำงานตามปกติ โดยรถเก๋งคันที่มีเรื่องด้วยขับมาด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. ตัวเองขับมาประมาณ 80 กม./ชม. ซึ่งขับตามเขาไปเรื่อยๆ ทว่า รถเก๋งคันนั้นบอกว่าผมขับจี้ตูด
นายพีระพัฒณ์กล่าวว่า พอยูเทิร์นหน้าเขตบ้านโคกแล้ว รถเก๋งคันนั้นออกซ้าย ผมแซงขวา เขาก็หาว่าผมเหยียบรถใส่เขา ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่ก่อนที่จะเข้าทำงาน เขาขับรถตามมาก่อนจะต่อย 1 ครั้งที่หน้าบริษัท ก่อนจะบอกว่าตี 5 เจอกัน ตอนนั้นคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว
นายพีระพัฒณ์กล่าวต่อว่า พอเลิกงานเขาขับรถกระบะดีแมคซ์ 4 ประตู สีดำ มีคนเต็มรถ มากันทั้งหมด 3 คัน ผมจึงขับรถออกมาแล้วขับเข้าไปที่ตลาดอุดมสุข ก่อนวิ่งเข้าไปหลบในร้านสะดวกซื้อ คนกลุ่มนั้นประมาณ 10 คน พากันเข้ามาต่อยถึงในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งไม่เคยรู้จักกับคนที่มีเรื่องเลย ทั้งนี้ หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดว่าให้ไปแจ้งความเลย พ่อเขาเป็นตำรวจ แจ้งไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีให้ได้
