แม่ค้าส้มตำร้อง สปสช. หลังพี่สาวฉีดวัคซีนแอสต้าฯหมดสติมา 8 วัน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 11 สิงหาคม ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านพฤกษา 3 หมู่ 8 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.อรทัย เวลาแจ้ง อายุ 46 ปี แม่ค้าขายส้มตำ เปิดเผยว่า นางพัชรินทร์ เอิบอาบ อายุ 47 ปี พี่สาวแม่ค้าขายส้มตำ ได้หมดสติหลังจากฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางบัวทอง จนถึงวันที่ 10 สิงหาคม และถูกนำตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เนื่องจากมีอาการหนักขึ้น แต่อาการไม่ดีขึ้น
น.ส.อรทัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา พี่สาวได้พาเเม่ไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะได้มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลมาประชาสัมพันธ์ว่า ใครมีความประสงค์ที่จะฉีดวัคซีนแอสต้าเซเนก้าบ้าง พี่สาวจึงลงชื่อเพื่อรับการฉีดวัคซีน โดยก่อนฉีดวัคซีนได้มีเจ้าหน้าที่ซักประวัติและสอบถามถึงโรคประจำตัว ซึ่งปกติพี่สาวมีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวานกับโรคความดันสูง หลังจากฉีดวัคซีนวันแรก พี่สาวไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด ต่อมาวันที่ 4 สิงหาคม พี่สาวมีอาการหน้ามืด อาเจียน ร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรง ปากเบี้ยวพูดติดอ่าง จึงนำตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลบางบัวทอง และโรงพยาบาลบางบัวทอง ได้ประสานงานไปที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งทางโรงพยาบาลศิริราชได้นำรถสเเกนสมองเคลื่อนที่มาตรวจหาสาเหตุ พบว่าเส้นเลือดในสมองตีบ โดยเเพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจให้ ทั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม พี่สาวได้หมดสติและอาการไม่ดีขึ้น มีแต่ทรุดลงทุกวัน
น.ส.อรทัยกล่าวว่า ต่อมาวันที่ 10 สิงหาคม พี่สาวถูกนำตัวส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ซึ่งทางแพทย์ของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เเจ้งว่าพี่สาวมีโรคหัวใจโต น้ำท่วมปอด เส้นเลือดสมองตีบ เป็นตายเท่ากันและให้ญาติทำใจ ซึ่งตนได้เเจ้งกับทางแพทย์ไปว่า พี่สาวมีโรคประจำตัวเบาหวานกับความดันเท่านั้น จึงสงสัยว่า สาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากการฉีดวัคซีน จึงได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้มาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ครอบครัวของตนเครียดมากไม่รู้จะทำยังไงต่อไป พรุ่งนี้วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่เเห่งชาติ ตนและครอบครัวจะทำอาหารแจกให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรคโควิด-19 จำนวน 500 ชุด ก็หวังว่าผลบุญที่ทำในครั้งนี้ จะส่งผลให้พี่สาวหายจากอาการป่วยที่เป็นอยู่และกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง
