ตร.แจ้งข้อกล่าวหา ‘ป้าแต๋น’ ร่วมกับ ‘ลุงพล’ เปลี่ยนแปลงสภาพศพน้องชมพู่ นัดส่งสำนวนอัยการวันที่ 7 ก.ย. ด้านเจ้าตัวให้การปฏิเสธ
สืบเนื่องจากในช่วงเช้า นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ (ป้าแต๋น) และนายไชย์พล วิภา (ลุงพล) พร้อมด้วย นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรกกตูม ตามหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาว่าร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหา โดยร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพของน้องชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 นั้น
อ่านข่าว : ป๋าแต๋นเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เปลี่ยนแปลงสภาพศพน้องชมพู่
ต่อมาเวลา 12.30 น.วันที่ 4 กันยายน ทนายรัชพล ศิริสาคร นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ และนายไชย์พล วิภา ได้ออกจากห้องปฏิบัติการพิเศษสถานีตำรวจภูธรกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำนางสาวสมพรเสร็จเรียบร้อย
ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นางสาวสมพรว่า ร่วมกระทำผิดกับนายไชย์พล ผู้ต้องหา โดยร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพของน้องชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 โดยเป็นการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป อันเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 83 ทั้งนี้ พฤติการณ์ในคดีก็คือเป็นการที่นางสาวสมพร (ป้าแต๋น) ได้ร่วมกับลุงพลเคลื่อนย้ายศพน้องชมพู่
แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้บอกรายละเอียดในสำนวนการสอบสวนว่าเคลื่อนย้ายอย่างไร เพราะถือว่าเป็นความลับในคดี ซึ่งนางสมพรก็ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกับที่เคยให้การไว้แล้วก่อนหน้านี้ และได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ได้รับแจ้งในวันนี้
ทนายรัชพลกล่าวว่า ภายหลังให้การเสร็จพนักงานสอบสวนได้แจ้งวันนัดส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดมุกดาหารในวันที่ 7 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. และให้นางสาวสมพรเดินทางไปพบพนักงานเหตุการณ์ในวันเวลาดังกล่าว โดยให้เตรียมหลักทรัพย์ไปเผื่อต้องใช้ในการประกันตัวในชั้นอัยการด้วย แต่สำหรับชั้นพนักงานสอบสวนในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว
ด้านนางสาวสมพร หรือป้าแต๋น เปิดใจว่า ตราบใดที่ยังถูกดำเนินคดีอยู่ก็คงยังไม่มีความสบายใจก็ต้องต่อสู้คดีกันไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องสู้ต่อไป และเราไม่ทำอะไรผิดเราก็ต้องปฏิเสธต่อสู้คดี
นางสาวสมพรกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าวมันเป็นวิบากกรรมแล้วมันก็จะผ่านพ้นไปมันจะไม่อยู่กับเราตลอดเวลา ขอให้กรรมดีคุ้มครองเรา และขอให้กรรมร้ายที่เรากำลังโดนกระทำ ให้มันกลับไปหาคนที่กระทำกับเรา สงสารแต่แม่ที่เครียดมากแต่ก็บอกไปว่าไม่เป็นไรไม่ต้องห่วงไม่อ่อนแออยู่แล้ว ห่วงอย่างเดียวขอให้เล่นกันตรงๆ อย่าสกปรก ใครที่ติดตามคดีนี้อยู่ก็จะเห็นโดยปริยาย เหมือนกับตัวป้าแต๋นเองที่เห็นอยู่แต่พูดอะไรไม่ได้เพราะเป็นแค่ชาวบ้าน แต่สักวันหนึ่งอาจจะได้พูดอย่างเต็มปากเต็มคำ ป้าเชื่อมั่นในความจริงและความดี ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ส่วนความยุติธรรมต้องไปหาเอาเองข้างหน้า ขอให้กฎหมายบ้านเมืองเรามีความเที่ยงธรรม ซึ่งป้าก็จะสู้เต็มที่
“เจอคดีทุกคนก็เครียดหมดนั่นแหละ ไม่ใช่ไม่เครียด เครียดนะ เพราะเราไม่เคยเจอ แต่ที่เรามีกำลังใจสู้อยู่ได้ก็เพราะเราไม่ได้กระทำผิดอะไรเลย ความจริงสักวันหนึ่งก็ต้องถูกเปิดเผย” นางสาวสมพรกล่าว
