ประธานหัวหินรีชาร์จเซ็ง ปลัด สธ.เปลี่ยนม้ากลางศึก สั่งย้ายนายแพทย์ สสจ.ประจวบฯไปสมุทรสาคร
เมื่อวันที่ 23 กันยายน นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหิน รีชาร์จ ภาคเอกชน อ.หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์ โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Krod Rojanastien ภายหลังปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งย้าย นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ ไปเป็นนายแพทย์ สสจ.สมุทรสาคร มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยระบุว่า ข่าวร้ายคือย้ายข้าราชการที่ทำงานดีในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการทำงาน เปรียบเสมือนกับการเปลี่ยนม้ากลางศึก สาธารณสุขจังหวัด หรือ สสจ.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนทุ่มเทกับการทำงานอาจพูดได้ว่าวันนี้จังหวัดประจวบฯไม่มี สสจ.ท่านนี้การแพร่ระบาดอาจมีผู้ติดเชื้ออีกมากและคงควบคุมได้ยาก
“คงเพราะเช่นนี้ถึงเข้าตากรรมการเลยโดนย้ายไปพื้นที่ที่มีการระบาดสูง ผมได้รู้จักกับ สสจ. มาประมาณ 6 เดือน ในการทำโครงการหัวหินรีชาร์จ เป็นคนเดียวในฐานะข้าราชการที่เป็นเหมือนเพื่อนที่ไว้ใจได้ในการให้คำแนะนำที่ดีเสมอมา ความรู้สึกเสียดายปนความน้อยใจ ทำไมระบบราชการไทยถึงต้องเป็นแบบนี้ แค่การสื่อสารสอบถามคนในพื้นที่ให้ครอบคลุมก่อนย้ายคนน่าจะเป็นคำตอบที่ดีในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ยิ่งเป็นพื้นที่ที่สำคัญในการเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยยิ่งต้องทำครับ ไม่ใช่ถึงเวลาก็เซ็นคำสั่งไปเป็นจบหน้าที่ แล้วสุดท้ายประชาชนคนในพื้นที่ก็ต้องเหนื่อยมาเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่กับคนใหม่ มันเหนื่อยใจจริงๆ”
ด้าน นายอุดม ศรีมหาโชตะ ประธานฝ่ายสิ่งแวดล้อม สมาคมโรงแรมไทย อุปนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ เปิดเผยว่า กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการย้าย สสจ. ประจวบคีรีขันธ์ไปพื้นที่อื่น หรือการย้าย สสจ. ในแต่ละจังหวัดเปลี่ยนแปลงกันในช่วงการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 หรือคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ราชการในช่วงที่กำลังจะมีการพัฒนาหรือมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอหัวหิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. ล่าสุด สสจ. ประจวบคีรีขันธ์ ที่สำคัญหน่วยงานส่วนกลางควรสรรหาบุคคลที่มาแล้ว สามารถทำงานได้หลายปี ไม่ใช่ย้ายมาประจวบฯเพื่อรอเกษียณอายุราชการ หรือมาพักผ่อน ทำให้การขับเคลื่อนและการพัฒนาเศรษฐกิจหรือโครงสร้างการขับเคลื่อนตามนโยบายต่างๆ ต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่ตอบโจทย์การลงทุนด้านการท่องเที่ยว