ชัยภูมิอ่วมรอบ 50 ปี น้ำทะลักเข้า รพ.ต้องย้ายผู้ป่วย บางพื้นที่ท่วม 5 เมตร เร่งช่วยคนติดค้างนับพัน
อลหม่านมาต่อเนื่องตลอดทั้งคืนยันรุ่งเช้าที่ผ่านมา ล่าสุดยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดอยู่ในพื้นที่อีกจำนวนมากได้ ต้องเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือต่อเนื่องด้วยความยากลำบาก ระดับน้ำซึ่งยังไหลเชี่ยวพัดรุนแรงมีระดับสูงจนมิดหลังคาบ้านอีกหลายพันครอบครัว ทั้งภายในตัวอาคารตึกโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ยังท่วมจนถึงชั้น 2 ของตึก รพ.และบ้านพัก ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้
วันที่ 26 ก.ย.64 ที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่พัดถล่มเกิดฝนตกหนักมาต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตลอดทั้งคืน ล่าสุดเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่หนักสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยมีมาใน จ.ชัยภูมิ รอบกว่า 50 ปี ทำให้มีระดับน้ำป่าทะลักท่วมหนักมาต่อเนื่องในทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ
ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดในขณะนี้อีกกว่า 3 อำเภอ มีน้ำป่าหลากและทะลักล้นสันเขื่อนลำคันฉู ในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ เกิดน้ำป่าหลากน้ำท่วมฉับพลันเข้ามาในพื้นที่โรงพยาบาลประจำอำเภอบำเหน็จณรงค์ และในทั่วตัวอำเภอโซนเศรษฐกิจซึ่งมีระดับน้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็วขณะนี้สูงกว่า 5 เมตรแล้ว และยังมีระดับน้ำไหลเชี่ยวรุนแรงสูงเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่องไม่หยุด
ซึ่งตั้งแต่กลางดึกวานนี้ (25 ก.ย.) ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งอพยพคนไข้ผู้ป่วย แพทย์หมอพยาบาลออกจากพื้นที่กันอลหม่านมาต่อเนื่องยังช่วงสายที่ผ่านมา (25 ก.ย.) ซึ่งมีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลรวม 10 ราย ผู้ป่วยทั่วไป 30 ราย พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์หมอพยาบาลรวมอีกกว่า 120 คน ได้อพยพไปอยู่ที่บริเวณภายใน ปตท.ตลาดคำปิง อ.บำเหน็จณรงค์ และได้ใช้เรือกู้ชีพมารับผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย เพื่อเร่งนำส่ง รพ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา เป็นการชั่วคราวไปก่อนแล้ว ซึ่งขณะนี้ด้านการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ทั้งหมด ไม่สามารถเข้าไปภายในได้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งระดับน้ำยังหลากท่วมขยายวงกว้างต่อเนื่องบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงจมมิดหลังคาเกือบทั้งหมดแล้ว
ล่าสุดทางชุดชาวบ้าน เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล ที่พากันอพยพหนีน้ำมาอาศัยอยู่ที่ปั๊ม ปตท.คำปิง ขอความช่วยเหลือด้านการสนับสนุนอาหารน้ำดื่มเป็นการด่วนซึ่งพากันอดอาหารมาตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาวานนี้รวมอีกกว่า 250 ชุด และอยู่ระหว่างที่ทาง จนท.เกี่ยวข้องพยายามฝ่าน้ำเชี่ยวสูง ซึ่งรถยนต์ทุกชนิดรวมทั้งรถยกสูงหรือเรือที่ไม่มีเครื่องยนต์แรงก็ยังไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงเข้าพื้นที่ได้ ซึ่งล่าสุดด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานขอกำลังทหาร จากกองทัพภาคที่ 2 เพื่อหาทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ เป็นการด่วนต่อไปแล้ว
ขณะที่อีกด้านในอำเภอใกล้เคียงกัน ที่ อ.จัตุรัส ก็เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่หนักสุดไม่แพ้กัน ซึ่งตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ได้มีประกาศเตือนให้ผู้ใช้เส้นทางบนถนนทางหลวงหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงก่อนเข้าถึงตัวอำเภอจัตุรัส เชื่อมผ่านเข้าออก จ.ชัยภูมิ และ จ.นครราชสีมา รถเล็กทุกชนิดไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านจุดนี้ได้
และล่าสุดเกิดน้ำป่าหลากท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคาบ้านเข้ามาในพื้นที่ในตัวอำเภอจัตุรัส โซนเศรษฐกิจกลางตัวอำเภอได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างอีกทั้งหมดแล้ว ซึ่งล่าสุดการเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ที่มีการแจ้งประสานต่อทางหน่วยมูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ใน จ.ชัยภูมิ, จ.นครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น เพื่อนำอุปกรณ์เรือเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านเข้าออกไม่ได้อีกเป็นจำนวนมากในหลายตำบล ใน อ.จัตุรัส ในขณะนี้อีกไม่น้อยกว่า 1,000 คน ที่ยังไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอเข้าไปให้การช่วยเหลือพาออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยวรุนแรงมากในขณะนี้ได้
รวมทั้งอีกด้านที่ อ.เมืองชัยภูมิ ก็ยังเกิดฝนตกหนักเกิดน้ำป่าหลากจากเขื่อนลำปะทาว และลำน้ำชียังทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ยังมีระดับน้ำท่วมขยายวงท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายมากขึ้นอีกกว่า 1,000 ครอบครัว อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านเข้าออก รพ.ได้ และต้องระดม จนท.คอยใช้เรือบริการรับส่งผู้ป่วยเข้าออก รพ.อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งในพื้นที่ตำบลใกล้เคียงในตัวอำเภอเมือง ที่มีทางน้ำลำปะทาวไหลผ่านเกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกหลายตำบล และมีชาวบ้านถูกตัดขาดติดอยู่ภายในบ้านอีกเป็นจำนวนมาก จนท.อยู่ระหว่างหาทางจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเป็นการด่วนอย่างต่อเนื่องแล้ว
ซึ่งล่าสุดจังหวัดชัยภูมิ ได้รับความเสียหายมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมในขณะนี้อีกจำนวนมากแล้วรวมกว่า 8 อำเภอ ซึ่งทางด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วง 08.00 น.วันนี้ และสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเป็นการด่วนเพิ่มเติมเพื่อเตรียมประกาศให้เป็นพื้นที่อำเภอเขตประสบภัยพิบัติทั้งหมดต่อไป
