‘ประมง’ แจงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรมหาสารคาม หลังมวลน้ำทะลักลำน้ำชี ปลานิลน็อกน้ำตาย 135 ตัน

กรมประมงแจงแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง จ.มหาสารคาม หลังมวลน้ำระลอกใหญ่ไหลทะลักลำน้ำชี ทำปลาน็อกน้ำตายจำนวนมาก

จากกรณีมวลน้ำระลอกใหญ่ไหลทะลักผ่านลำน้ำชี ส่งผลให้ปลานิลในกระชังที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ในพื้นที่ ต.โพนงาม และ ต.หนองบัว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ตายเป็นจำนวนมาก และได้สร้างความเสียหายแก่เกษตรกรอย่างหนัก

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคาม และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดมหาสารคาม เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเฉพาะหน้าไปก่อน ล่าสุด ได้ให้เกษตรกรเร่งดำเนินการจำหน่ายปลาออกไปโดยเร็ว เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้ชี้แจงแนวทางการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้รับผลกระทบแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง อีกทั้งยังได้แนะนำให้เกษตรกรทำการเคลื่อนย้ายกระชังทั้งหมดเข้าริมฝั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ไหลไปกับกระแสน้ำ

ทั้งนี้ จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น พบเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 48 ราย มีกระชังที่ได้รับความเสียหาย 450 กระชัง ปริมาณปลานิลที่เสียหายประมาณ 135 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.5 ล้านบาท (ราคาจำหน่าย 3 กิโลกรัม/100 บาท) ซึ่งเป็นความเสียหายเพียงส่วนหนึ่ง เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดมหาสารคามได้แจ้งประชาสัมพันธ์การคาดการณ์สถานการณ์ไว้ล่วงหน้า ทำให้เกษตรกรได้จับปลาขึ้นจำหน่ายไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของที่เลี้ยงไว้

โดยสาเหตุการตายมาจากการที่ปลาเกิดอาการน็อกน้ำ มีสาเหตุมาจากมวลน้ำจำนวนมากจาก จ.ชัยภูมิ และขอนแก่น ไหลผ่านพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้คุณภาพน้ำมีปริมาณออกซิเจนต่ำ ประกอบกับน้ำมีความขุ่นสูง เป็นเหตุให้ตะกอนเข้าเกาะบริเวณเหงือกปลา ทำให้ปลาไม่สามารถหายใจได้สะดวก ขาดออกซิเจน และตายเป็นจำนวนมาก

Advertisement

นายเฉลิมชัยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมประมง สามารถขอรับความช่วยเหลือได้โดยให้หน่วยงานกรมประมงภายในจังหวัดพิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยใช้เงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2564 เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติได้ทันท่วงที ในกรณีเงินงบประมาณไม่เพียงพอสามารถใช้เงินทดรองราชการในอำนาจของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือกองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรชาวประมง กรมประมง โทรศัพท์หมายเลข 0-2558-0218 และ 0-2561-4740

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image