มวลน้ำจากโคราชถึงสุรินทร์แล้ว ต้นข้าวจมน้ำกว่าพันไร่ ขณะที่ระดับน้ำยังขึ้นไม่หยุด คาดอีก 3-4 วัน นาข้าวติดแม่น้ำมูลมีจมเพิ่มอีกหลายพันไร่
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลน้ำจาก จ.นครราชสีมา ได้ถึง จ.สุรินทร์ แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่เขตเทศบาลตำบลยะวึก และตำบลกระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับลำน้ำมูล พบว่านาข้าวของชาวบ้านที่กำลังออกรวงสวยงามถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำแล้วกว่าพันไร่ นอกจากนี้ ยังมีพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ เช่น มันสำปะหลัง ก็ถูกน้ำท่วมด้วย
ขณะที่สะพานมิตรภาพ บุรีรัมย์-สุรินทร์ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง ต.กระเบื้อง กับบ้านโรงเลื่อย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ที่ตีนสะพานฝั่ง อ.สตึก น้ำมูลได้เอ่อท่วมถนนลาดยางเป็นระยะทางยาว เทศบาลสตึกต้องนำแบริเออร์มาตั้งเพื่อเตือนผู้ใช้เส้นทางดังกล่าว ขณะที่วัยหนุ่มสาวได้พากันมาถ่ายภาพและลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
จากการสอบถามนางสาย ฉวิกขุนรัมย์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านงิ้ว หมู่ 8 ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งพาหลานๆ ออกมาเล่นน้ำที่เอ่อท่วมถนนทางไปนา บอกว่า พาหลานๆ มาดูน้ำและให้เด็กๆ ได้เล่นน้ำกัน ซึ่งบริเวณที่ให้เด็กๆ เล่น คือ บนถนนที่น้ำเอ่อขึ้นมา ไม่ใช่น้ำไหล จึงไม่มีความเสี่ยงและอันตราย ระดับน้ำสูงเพียงแค่เข่า
นางสายบอกอีกว่า เมื่อวานตรงนี้ระดับน้ำยังไม่ขึ้นสูงขนาดนี้ พอมาดูวันนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นไวมาก คาดว่าถ้าระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นแบบนี้อีก 3-4 วัน คงจะถึงหมู่บ้านแน่นอน พื้นที่ตรงนี้เคยถูกน้ำจากลำน้ำมูลเอ่อท่วมหนักมาแล้วเมื่อปี 2553 ปีนั้นท่วมเป็นวงกว้างจนถึงในหมู่บ้าน นาข้าวได้รับความเสียหายเยอะมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณสะพานวังทะลุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีน้ำจากลำน้ำชีไหลมาประจบกับแม่น้ำมูล ที่หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ที่ต้องรับน้ำที่ไหลต่อจากเขตพื้นที่ อ.ชุมพลบุรี ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งมาชนกับคันกั้นน้ำ บางจุดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวชาวบ้านเป็นบริเวณกว้างแล้ว
นอกจากนี้ ที่บริเวณศาลปู่ตา ซึ่งเป็นสถานที่ใช้จัดกิจกรรมในพิธีบวชนาคช้างก็ถูกน้ำท่วมสูงถึงศาลและศาลาพักแล้ว และยังคงมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง
