ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ เผยยังรับน้ำได้อีก 18.37% ระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 9 ล้าน ลบ.ม. ขอให้ ปชช.มั่นใจ

ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ ระบุอ่างเก็บน้ำยังสามารถรองรับน้ำได้ 18.37% ส่วนแผนการระบายน้ำเฉลี่ย 9 ล้าน ลบ.ม./วัน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายอมร แก่นสารี ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเขื่อนวชิราลงกรณมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำประมาณ 7,232 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 81.63% ของความจุอ่าง สามารถรับน้ำได้ 1,627 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 18.37% โดยระหว่างวันที่ 11-17 ต.ค.64 มีแผนการระบายน้ำเฉลี่ย 9 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 ถึงปัจจุบันประมาณ 5,214 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายอมรระบุว่า จากแผนระบายน้ำในฤดูฝนปี 2564 (ก.ค.-ธ.ค.) ของกรมชลประทาน จัดสรรการระบายน้ำในลุ่มน้ำแม่กลอง 2,800 ล้าน ลบ.ม. โดยเขื่อนวชิราลงกรณมีแผนระบายน้ำ 1,700 ล้าน ลบ.ม. และได้ระบายน้ำช่วงฤดูฝนไปแล้ว 959 ล้าน ลบ.ม. (1 ก.ค.-10 ต.ค.64) ทั้งนี้ เขื่อนวชิราลงกรณมีการติดตามปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทุกวัน รวมทั้งติดตามระบบโทรมาตรลุ่มน้ำแม่กลอง ลำน้ำแควน้อย รายชั่วโมง เพื่อปรับแผนระบายน้ำให้เหมาะสมกับทันต่อสถานการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อน

นายอมรกล่าวว่า แม้ว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีก ซึ่งเป็นผลกระทบจากมรสุมแต่เป็นช่วงปลายฤดูฝนแล้ว และในปัจจุบันเขื่อนยังรองรับปริมาณน้ำได้อีกมาก ประมาณ 1,600 ลบ.ม. ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ ทั้งนี้ เขื่อนวชิราลงกรณมีการติดตามปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทุกวัน เพื่อปรับแผนระบายน้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและปริมาณน้ำที่ไหลเข้ารายวัน ส่วนด้านความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนมีการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหว ณ ตัวเขื่อนขนาด 7 เหตุการณ์ที่ผ่านมาจึงไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนวชิราลงกรณเคยต้องระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำฉุกเฉินสปิลเวย์มาแล้วด้วยกัน 4 ครั้ง คือในปี 2537 ปี 2540 ปี 2545 และล่าสุดเมื่อปี 2561 เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณมากกว่า 80% หรือสูงกว่าระดับ Upper Rule Cuver จึงต้องพร่องน้ำให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ควบคุม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image