เมืองพัทยาพร้อมฉีด ‘ไฟเซอร์’ นักเรียนกว่า 4 พันคน เริ่ม 19-20 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยา 11 แห่ง ว่าขณะนี้เมืองพัทยามีศักยภาพและความพร้อมในการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับนักเรียนอายุตั้งแต่ 12-18 ปี เพื่อสร้างความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 โดยทางสำนักการศึกษาเมืองพัทยาแจ้งตัวเลขนักเรียนในเขตพื้นที่มีทั้งสิ้น 5,326 ราย และผู้ปกครองแสดงความจำนงให้บุตรหลานฉีดวัคซีนแล้ว 4,662 ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87.5 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด

“เมืองพัทยาได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก จำนวน 5,000 โดส เราพร้อมจะเริ่มฉีดให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมและมัธยมศึกษาทันทีในวันอังคารที่ 19 ตุลาคม และวันพุธที่ 20 ตุลาคมนี้ ณ โรงเรียนเมืองพัทยา 2 โดยไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดของการฉีดวัคซีน เนื่องจากอาจมีผู้แสดงความจำนงขอฉีดเพิ่มเติม เมืองพัทยาก็จะดำเนินการฉีดให้โดยไม่เสียสิทธิแต่อย่างใด” นายสนธยากล่าว

นายสนธยากล่าวว่า ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปของเมืองพัทยาครั้งนี้จะฉีด จำนวน 2 เข็ม สำหรับเข็มที่ 2 ได้กำหนดเว้นระยะห่างประมาณ 3-4 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญพิจารณาความพร้อมเรื่องของการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนตามปกติได้ต่อไป ส่วนกลุ่มเด็กประถมและเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่อยู่ในเกณฑ์การรับวัคซีนในขณะนี้ มีข้อแนะนำคือใช้มาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง หากดำเนินการได้ผลดีก็ยังสามารถทำกิจกรรมการเรียนการสอนได้

นายสนธยากล่าวอีกว่า หลังจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้ว เมืองพัทยายังมีระบบดูแลและเฝ้าระวังเพื่อติดตามอาการและความปลอดภัยของเด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างความอุ่นใจให้แก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง โดยทีมสาธารณสุขและโรงพยาบาลเมืองพัทยาเป็นผู้ให้คำปรึกษาโดยใช้ระบบเดียวกับผู้ใหญ่ อาทิ มีการเฝ้าระวังอาการแพ้รุนแรงช่วง 30 นาทีแรกหลังฉีด มีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่องอีก 30 วัน นอกจากนั้น ยังมีคำแนะนำเป็นข้อปฏิบัติตัวภายใน 7 วันหลังฉีดวัคซีนจากทีมสาธารณสุข ว่าไม่แนะนำให้เด็กออกกำลังกายหนักๆ เพราะจะทำให้หัวใจต้องทำงานเพิ่มขึ้น รวมถึงความรู้สึกเหนื่อยจากการออกกำลังอาจทำให้กังวลและไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากวัคซีนหรือไม่ ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรร่วมมือกับเมืองพัทยาในการดูแลบุตรหลานด้วย

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image