‘นครพนม’ งดประกวด ‘ไหลเรือไฟ’ รอบ 50 ปี คุมเข้มโควิดจัดแบบโบราณเรียบง่าย

‘นครพนม’ งดประกวด ‘ไหลเรือไฟ’ รอบ 50 ปี คุมเข้มโควิดจัดแบบโบราณเรียบง่าย

นครพนม งดจัดงานใหญ่ประกวดไหลเรือไฟออกพรรษา รอบ 50 ปี คุมเข้มโควิด-19 ระบาด เน้นจัดสืบสานประเพณีเรียบง่าย ตามแบบประเพณีโบราณ จัดแค่ไหลเรือไฟโบราณบูชาน้ำโขง มีเรือไฟโชว์คืนละ 3 ลำ ปล่อยกระทงสายไข่พญานาคคืนละกว่าหมื่นดวง เข้มคัดกรอง นักท่องเที่ยว เว้นระยะห่าง ท่องเที่ยวแบบนิว นอร์มอล

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศเตรียมพร้อมการจัดงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟประจำปี 2564 ซึ่งถือเป็นงานประเพณียิ่งใหญ่ทุกปี จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา โดยทุกปีจะมีการประกวดไหลเรือไฟยิ่งใหญ่อลังการให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมในคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 จำนวนประมาณ 13 ลำ แต่ในปีนี้ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้จังหวัดนครพนม พร้อมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และหน่วยงานเกี่ยวข้องกำหนดจัดงานประเพณีไหลเรือไฟขึ้น ในช่วงระหว่างวันที่ 18-23 ตุลาคม 2564 ซึ่งปีนี้งดการจัดประกวดไหลเรือไฟที่ยิ่งใหญ่ ที่เคยจัดมาในรอบกว่า 50 ปี เน้นรูปแบบการจัดงานท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล เว้นระยะห่าง ลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด

สำหรับกิจกรรมในงานตั้งแต่ช่วงเย็นของคืนวันที่ 18-23 ตุลาคม 2564 จะมีแค่การสืบสานประเพณีไหลเรือไฟโบราณ ที่ทำจากไม้ไผ่ และต้นกล้วยเป็นรูปเรือ พร้อมจัดเครื่องสักการะบูชาใส่ลงไป ก่อนนำไปปล่อยบูชาแม่น้ำโขง และบูชาพญานาคตามความเชื่อแต่โบราณ ที่สืบทอดกันมาในอดีต ก่อนที่จะมีการประยุกต์จัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ อลังการที่เคยจัดขึ้นทุกปี ใช้งบประมาณลำละเกือบ 1 ล้านบาท แต่ในปีนี้เน้นความเรียบง่าย ตามมาตรการคุมเข้มโควิด นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดทำเรือไฟโชว์ ขนาดความยาวประมาณ 30 เมตร สูง 10 เมตร ตกแต่งด้วยตะเกียงไฟ ประมาณ 3,500 ดวง ไลฟ์โชว์นักท่องเที่ยว คืนละ 3 ลำ

รวมถึงปล่อยกระทงสาย หรือไข่พญานาคกลางลำน้ำโขงวันละกว่า 10,000 ดวง จนถึงคืนวันออกพรรษา ทั้งนี้ในส่วนของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งทุกปีเช้าวันออกพรรษาปีนี้ตรงกับวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จะมีการรำบูชาพระธาตุพนม จากสาวงาม 7 ชนเผ่า นับ 1,000 คน ปีนี้ลดจำนวนนางรำเหลือแค่ 50 คน เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด เน้นสืบสานประเพณี ทั้งนี้ ทางจังหวัดนครพนม ได้มีมาตรการเข้ม ในการตรวจสอบคัดกรองนักท่องเที่ยว ตามสถานที่สำคัญกำชับสวมหน้ากากอนามัย พร้อมประสาน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก จะต้องปฏิบัติตามมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวเข้มงวด

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image