เขื่อนทับเสลา อุทัยฯ เร่งระบายน้ำเพิ่ม ทยอยท่วมแล้ว 2 อำเภอ ไม่ถึง 4 ชม.ท่วมเกือบทั้งหมู่บ้าน
วันที่ 18 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่อ่างเก็บน้ำทับเสลา ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อทำการระบายน้ำออกจากเขื่อนอย่างเร่งด่วน หลังจากที่เขื่อนมีปริมาณน้ำกักเก็บภายในอ่างมากเกินความจุ จนทำให้เกิดน้ำล้นสปิลเวย์ จากอิทธิพล พายุไลออนร็อก และพายุคมปาซุ ที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันในพื้นที่ จึงทำให้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทับเสลา จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านอาคารช่องระบายน้ำลงลำน้ำเดิม (River Outlet) จากเดิมวันละ 2.51 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของตัวอาคารเขื่อนทับเสลา และควบคุมไม่ให้เกิดปริมาณน้ำไหลล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน (Emergency Spillway) ในปริมาณมากเกินซึ่งจะไม่สามารถควบคุมได้จนส่งผลเสียหายต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำเป็นวงกว้าง
โดยหลังจากที่เขื่อนทับเสลาได้เริ่มทำการเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าว ในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังการระบายน้ำลงมาในครั้งนี้ พื้นที่รับน้ำใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลานสัก และอำเภอหนองฉาง ทั้งพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมห้วยและคลองรับส่งน้ำ ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลระบำ หมู่ 13 อำเภอลานสัก ที่ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างฉับพลันและพัดถนนสัญจรเข้าออก หมู่บ้านจนไม่สามารถเข้าออกได้ ทำให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย อุทัยธานี ต้องเร่งระดมกำลังและอุปกรณ์ เข้าไปช่วยชาวบ้านออกมาจากหมู่บ้าน ส่วนพื้นที่ ตำบลลานสัก ตำบลประดู่ยืน อำเภอลานสัก และตำบลอุทัยเก่า อำเภอหนองฉาง ขณะนี้หลายหมู่บ้านที่อยู่ติดกับคลองส่งน้ำเริ่มทยอยถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมอย่างต่อเนื่อง
โดยทางที่ว่าการอำเภอหนองฉาง แจ้งหนังสือ เรื่อง การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ไปถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ให้เร่งประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามสถานการณ์ และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงอีกด้วย ทั้งนี้ มวลน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนทับเสลานี้ มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองทับเสลาทั้ง 2 ฝั่ง ได้มากถึง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลานสัก อำเภอหนองฉาง อำเภอหนองขาหย่าง และ อำเภอเมืองอุทัยธานีบางส่วน
