ผู้เลี้ยงสุกรเศร้า น้ำทะลักลูกหมูจมน้ำตายกว่า 3,000 ตัว ปศุสัตว์ลงพื้นที่ช่วยเหลือ
วันนี้ 19 ต.ค.64 นายมนัส เทพรักษ์ ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากผลกระทบพายุโซนร้อน “คมปาซุ” ทำให้มีฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรและด้านปศุสัตว์ ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ถนนถูกน้ำท่วมเกือบตลอดทั้งสาย ระดับน้ำอยู่ที่ 1-2 เมตร
โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอหนองปรือ อำเภอบ่อพลอย อำเภอเลาขวัญ และอำเภอห้วยกระเจา สำหรับพื้นที่อำเภอบ่อพลอย ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือท้องที่ ตำบลหลุมรัง มีทั้งหมดจำนวน 18 หมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 119.81 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 74,885 ไร่
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรีได้รับแจ้งว่า มีฟาร์มเลี้ยงสุกรขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลหลุมรัง ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยมีลูกสุกร อยู่ในฟาร์มประมาณ 10,000 ตัว และฟาร์มสุกรขุน 2,800 ตัว ทางเจ้าของฟาร์มต้องเร่งขนย้ายสุกรทั้งหมดออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยต้องขนลงเรือท้องแบน ไปถ่ายใส่รถบรรทุกสิบล้อ ก่อนจะขนย้ายใส่รถคอกหมูต่ออีกทอด ซึ่งเป็นไปอย่างทุลักทุเล
ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 17-18 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ 2 ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย ร่วมกับ ด่านกักกันสัตว์กาญจนบุรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์กาญจนบุรี สำนักงานประมงจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี กองพลทหารราบที่ 9 เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิอาสากู้ภัยในพื้นที่เข้าทำการขนย้ายสุกรออกจากฟาร์มที่ถูกน้ำท่วมไปยังพื้นที่ปลอดภัย เบื้องต้นพบว่ามีลูกสุกรจมน้ำตายประมาณ 3,600 ตัว ในการนี้ได้เน้นย้ำให้ปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่มีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมการช่วยเหลือต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์การเกิดอุทกภัยน้ำท่วมจากพายุ โซนร้อน “คมปาซุ” ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอย่างหนัก ปัจจุบันมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ โดยมีน้ำล้นตลิ่งลำตะเพินในพื้นที่อำเภอหนองปรือ และอำเภอบ่อพลอย และน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน (ในภาพรวม 3 อำเภอ) รวม 15 ตำบล 137 หมู่บ้าน 6,033 ครัวเรือน ซึ่งจังหวัดได้ระดมเครื่องมือ เครื่องจักร และกำลังคนจากทุกภาคส่วนเข้าช่วยเหลือบรรเทาภัยแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับถนนสายหลัก บ่อพลอย-หลุมรัง ระดับน้ำท่วมขังถนนอยูที่ 1-2 เมตร รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านไป-มา ได้ ส่วนรถขนาดใหญ่จะต้องขับด้วยความระมัดระวัง