จ่ายแล้ว!  “ธ.ก.ส.พิจิตร” จ่ายเงินประกันรายได้ข้าวเปลือกปี’64  แล้วกว่า 3.4 หมื่นรายวงเงินเกือบ 900 ล้าน

จ่ายแล้ว!  “ธ.ก.ส.พิจิตร” จ่ายเงินประกันรายได้ข้าวเปลือกปี’64  แล้วกว่า 3.4 หมื่นรายวงเงินเกือบ 900 ล้านบาท เกษตรกรแห่นำสมุดบัญชีมาปรับสมุดและเบิกถอนตั้งแต่เปิดทำการ

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 บรรยากาศ การจ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว ปีที่ 3 งวดที่ 1 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)จังหวัดพิจิตร จ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งมีเกษตรกร ที่กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส. เรียบร้อยแล้ว มีเกษตรกรชาวนาบางส่วนมา ต้องได้รับความผิดหวัง เนื่องจาก บางคนเงิน โอนเข้าบางคน ยังไม่มีเงินโอนเข้า เนื่องจากรัฐบาลจะจ่ายให้กับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวก่อนในช่วงเดือน ตุลาคม

นางสาวสุทธินันท์ พิริยะกฤต ผู้อำนวยการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลได้โอนเงินค่าประกันรายได้ข้าวเปลือกฤดูกาลนาปี 2564ให้กับเกษตรกรชาวนา เป็นวันแรก ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส.จังหวัดพิจิตร ได้โอนเงินประกันรายได้ให้กับเกษตรกรชาวนา ทั้ง 12 อำเภอรวม 15 สาขา 34,832 ราย เป็นมูลค่าวงเงินจำนวนกว่า 897 ล้านบาท โดยบรรยากาศที่ธนาคาร ธกส.สาขาอำเภอเมืองพิจิตร ตั้งแต่ช่วงเช้าเปิดทำการคึกคักเป็นพิเศษ มีกลุ่มเกษตรชาวนาในพื้นที่ 15 ตำบลของอำเภอเมืองพิจิตร ที่เก็บเกี่ยวข้าวเปลือกผลผลิตฤดูกาลผลิตนาปี 2564 ไปขายกับโรงสีและท่าข้าว และนำเอกสารไปยื่นกับเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลแล้ว ได้นำสมุดบัญชีของธนาคาร ธกส.มาปรับสมุด เพื่อตรวจสอบยอดเงินโอนค่าประกันรายได้ที่บริเวณตู้ ATM ของธนาคาร รวมทั้งปรับสมุดเบิกถอนเงินภายในธนาคาร ธกส.กันอย่างคึกคัก

นางสาวสุทธินันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับ ธนาคาร ธกส.สาขาอำเภอเมืองพิจิตร ได้โอนเงินค่าประกันรายได้ให้กับชาวนาจำนวนกว่า 5,800 ราย มูลค่าวงเงินจำนวนกว่า 140 ล้านบาท โดยเกษตรกรที่ตรวจเช็คสมุดบัญชีเงินฝากแล้วพบว่า มีเงินโอนเข้าบัญชี ต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่ ทำการเบิกถอนเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กันอย่างคึกคัก สำหรับเงินค่าประกันรายได้ หากเป็นข้าวหอมมะลิ ประกันรายได้ที่ตันละ 10,864 บาท ชาวนาจะได้ส่วนต่างอยู่ที่ตันละ 4,135 บาท แต่จะต้องไม่เกิน 14 ตันต่อครัวเรือน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ประกันรายได้อยู่ที่ตันละ 10,407 บาท ชาวนาจะส่วนต่างอยู่ที่ตันละ 3,592 บาทแต่ไม่ต้องเกิน 16 ตันต่อครัวเรือน และข้าวเปลือกเจ้าประกันรายได้อยู่ที่ตันละ 8,065 บาท ชาวนาจะได้ส่วนต่างอยู่ที่ตันละ 1,934 บาทแต่จะต้องไม่เกิน 30 ตันต่อครัวเรือน ทำให้เกษตรกรต่างดีใจยิ้มแย้มแจ่มใส่กับโครงการประกันรายได้ดังกล่าว

Advertisement

ด้านนายประเทือง เพชรจันทร์ ชาวนาตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมืองพิจิตร กล่าวว่าตนเองทำนาเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกขายไปได้เงินตันละ 5 พันบาทเศษ และมาได้ส่วนต่างที่รัฐบาลช่วยตรงโครงการนี้รู้สึกดีใจ และ วันนี้นำสมุดบัญชีมาตรวจเช็คพบว่ามีเงินเข้า ซึ่งจะได้เบิกถอนเงินไปบางส่วนไปจ่าย ค่ารถเกี่ยว ใช้ค่าปุ๋ยค่ายา รวมทั้งนำไปซื้อสิ่งของเครื่องใช้ประจำวัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image