ทีมอสรพิษวิทยาจันทบุรี เสี่ยงตายปีนบันไดจับ ‘งูเห่าพ่นพิษสยาม’ ใต้หลังคาโรงจอดรถ
เมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 4 ธันวาคม งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลสองพี่น้อง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบงูตัวขนาดใหญ่เลื้อยอยู่บนหลังคาบ้าน พื้นที่หมู่ 5 ซอยสามผาน-รางใน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยงูมีการแผ่แม่เบี้ยขณะตกใจเสียงสุนัข คาดว่าจะเป็นงูพิษ เกรงจะมีคนได้รับอันตราย
หลังได้รับแจ้งได้ประสานไปยังสิบเอกณัฐพล เสืองาม ครูฝึกอสรพิษวิทยาทีมอาสาพิทักษ์งูเมืองจันท์ พร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกัน เทศบาลตำบลสองพี่น้อง นำอุปกรณ์จับสัตว์เลื้อยคลานเดินทางตรวจสอบ
เมื่อมาถึง พบเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว โดยมีนางสำเนา ชนะสิทธิ์ เจ้าของบ้าน พาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่พบงู บนโครงหลังคาโรงจอดรถ เบื้องต้นพบงูตัวขนาดใหญ่ กำลังเลื้อยขดตัวอยู่บนโครงเหล็กใต้หลังคา สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร
ต่อมา สิบเอกณัฐพลได้นำบันไดปีนขึ้นไปใช้ตะขอพยายามเกี่ยวคล้องตัวงู และใช้มือเปล่าอีกข้าง คว้าจับที่ส่วนหาง ทันทีที่งูถูกรุกราน ได้แสดงสัญชาตญาณป้องกันตัว
โดยการแผ่แม่เบี้ย และฉกต่อสู้ ทำให้ทราบทันทีว่างูตัวดังกล่าวคือ งูเห่าพ่นพิษสยาม
ซึ่งทำให้ภารกิจครั้งนี้ มีความยากเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากงูเห่าชนิดนี้ นอกจากจะมีพิษร้ายแรง ถึงขั้นทำให้คนที่ถูกกัดเสียชีวิตแล้ว ยังสามารถพ่นพิษได้ระยะไกลกว่า 2 เมตร ซึ่งการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างลุ้นระทึกทุกวินาที เนื่องจากงูเห่าไม่ยอมให้จับตัวได้ง่ายๆ โดยพยายามเลื้อยหลบหนีไปตามโครงหลังคา และแว้งพุ่งตัวกลับเข้าฉกใส่สิบเอกณัฐพลหลายครั้ง โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที สิบเอกณัฐพลจึงสามารถจับงูเห่าลงจากหลังคาได้สำเร็จ พร้อมทำการตรวจสอบเพื่อจัดเก็บบันทึกข้อมูล เบื้องต้นพบงูตัวดังกล่าวคืองูเห่าพ่นพิษสยาม ตัวโตเต็มวัย สภาพสมบูรณ์แข็งแรง ความยาวประมาณ 80 ซม.
จากนั้นจึงได้ใช้แกลลอนพลาสติก มาทำการหลอกล่อให้งูเห่าเลื้อยเข้าไปหลบตามสัญชาตญาณ ก่อนนำไปพักพื้นและเตรียมนำไปปล่อยคืนป่าธรรมชาติที่ห่างไกลชุมชนต่อไป
ขณะที่สิบเอกณัฐพล เสืองาม ครูฝึกอสรพิษวิทยา เปิดเผยว่า งูเห่าพ่นพิษสยาม เป็นงูเห่าจำพวกงูเห่าพ่นพิษ หรืองูเห่าที่สามารถพ่นพิษได้ โดยสามารถพ่นพิษได้ไกล 1-2 เมตร เมื่อพ่นน้ำพิษหมดแล้ว สามารถผลิตน้ำพิษได้ในเวลา 10 นาที สามารถพ่นน้ำพิษใหม่ได้อีกซึ่งในขณะชูคอแผ่แม่เบี้ยขู่ งูจะอ้าปากเพื่อเตรียมพ่นพิษใส่ศัตรู จะมีรูของเขี้ยวพิษ อยู่ทางด้านหน้า เพื่อสะดวกในการฉีดพ่นพิษออกไป ซึ่งถ้าหากถูกพิษเข้าตาจะยังไม่ทำให้ตาบอดทันที นอกจากจะไปขยี้ตา ซึ่งจะทำให้พิษซึมแพร่กระจาย
ส่วนที่มีการพบงูพิษบ่อยในช่วงนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ทั้งนี้ หากประชาชนที่พบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือผู้เชี่ยวชาญทันที อย่ากระทำการจับหรือทำร้ายงูด้วยตัวเอง อาจจะเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
