พ่อแม่น้องหญิงใจชื้นหลัง คปภ.ฟันธงบริษัทประกันต้องจ่าย แต่ยังไร้วี่แววติดต่อ
พ่อกับแม่น้องหญิง สาวราชภัฏที่ถูกรถเบนซ์ชนจนเสียชีวิต แล้วถูกบริษัทประกันภัยประวิงไม่จ่ายค่าสินไหม 2.5 ล้าน ดีใจหลังทราบว่า คปภ.ฟันธงว่าต้องจ่ายเงินสินไหม พร้อมกับค่าปรับ ขอบคุณ คปภ.ที่เป็นที่พึ่งของผู้เคราะห์ร้าย ที่คาดว่าน่าจะมีมากกว่านี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยังไม่มีบริษัทประกันติดต่อมา
วันที่ 8 ธ.ค.64 นายสมชาย เกรัมย์ อายุ 56 ปี และนางสมเร็จ เกรัมย์ อายุ 56 ปี พ่อและแม่ของน้อง น.ส.พัชราภา หรือน้องหญิง เกรัมย์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปี 4 ที่ถูกรถเบนซ์ชนจนเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณก่อนถึงทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
ก่อนจะกลายเป็นเรื่องดราม่า เนื่องจากบริษัทประกันภัยอาคเนย์บ่ายเบี่ยงการจ่ายสินไหมทดแทน จำนวนเงิน 2.5 ล้านบาท ทั้งยังไปแจ้งความกล่าวหาคนขับรถเบนซ์ว่าฉ้อฉล ให้การอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน และศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ได้ออกมาแสดงอาการดีใจ หลังจาก ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้ออกมาระบุว่า ยังยืนยันปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แม้ทราบว่าศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ซึ่งได้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเปรียบเทียบ ครั้งที่ 5/2564 วันที่ 7 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาจากพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ และเปิดโอกาสให้บริษัทเปรียบเทียบฯ จึงมีมติให้เปรียบเทียบปรับบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในอัตราโทษสูงสุดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 1,858,400 บาท และปรับรายวัน วันละ 20,200 บาท จนกว่าจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต
“ความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมเป็นโทษปรับทางอาญา ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงาน คปภ.ได้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โดยรับฟังพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย พร้อมได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายและเพื่อให้การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม
นายสมชายบอกว่า หลังทราบข่าวรู้สึกดีใจ ที่หน่วยงานของรัฐอย่าง คปภ.ยังให้ความสำคัญและให้ความเป็นธรรมกับตนและครอบครัว ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะคาดว่ายังมีพี่น้องประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ตกในที่นั่งลำบากอย่างตน แต่ไม่มีทางออก ขอขอบคุณ คปภ.ที่ทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยติดต่อมาหาตนแต่อย่างใด
