ด่วน! ศาลจังหวัดทองผาภูมิให้ประกัน 5 นายพราน คดีล่าเสือโคร่ง วงเงิน 1 แสนบาท หลัง ตร.นำฝากขังวานนี้

 

ด่วน! ศาลจังหวัดทองผาภูมิให้ประกัน 5 นายพราน คดีล่าเสือโคร่ง วงเงิน 1 แสนบาท หลัง ตร.นำฝากขังวานนี้ ด้าน ผกก.เผยใช้เวลาพิสูจน์หลักฐานในคดี 2-3 สัปดาห์ เหตุมีจำนวนมาก ขณะที่อำเภอเตรียมเรียกสอบ ผญบ.-อปพร. หากผิดเจอคดีอาญา

จากกรณีที่ 5 นายพรานตั้งแคมป์ ขุดหลุมดักเสือโคร่ง นำวัวมาเป็นเหยื่อล่อให้ออกจากป่ามากินเป็นอาหารแล้วใช้อาวุธปืนยิงเสือ 2 ตัว เสียชีวิต แล้วนำมาแล่เนื้อถลกเอาหนัง ขณะพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมินำกำลังเข้าจับกุม แต่กลุ่มนายพรานเกิดไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

สำหรับของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้ ประกอบด้วย ซากเสือโคร่ง จำนวน 2 ซาก น้ำหนัก 52.5 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 50 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 5 ปลอก เหตุเกิดที่บริเวณป่าห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ระหว่างวันที่ 8-11 มกราคม 2565

ต่อมา วันที่ 13 ม.ค.65 ผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ประกอบด้วย นายกูกือ ยินดี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) อายุ 37 ปี นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี และนายโชเอ ไม่มีนามสกุล อายุ 66 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในหมู่บ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ โดยทั้งหมดอ้างว่าสาเหตุที่ลงมือยิงเสือเนื่องจากเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว ไปกัดวัว ควายของชาวบ้านตาย จึงต้องกำจัด โดย นายจอแห่ง พนารักษ์ และนายศุภชัย เจริญทรัพย์ รับว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนของกลางยิงเสือทั้ง 2 ตัว

Advertisement

ล่าสุด วันนี้ (16 ม.ค.65) พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บตัวอย่าง DNA และตรวจหาคราบเขม่าดินปืนที่มือของผู้ต้องหา อุปกรณ์การทำผิดของกลางทั้งหมด รวมทั้งอาวุธปืน และลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ทำการรวบรวมส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) คาดว่าจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากคดีนี้มีพยานวัตถุ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จำนวนมาก

สำหรับผู้ต้องหาวานนี้ได้ทำการฝากขังผัดแรกไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีระยะเวลาในการฝากขัง รวม 4 ผัด (ผัดละไม่เกิน 12 วัน รวมแล้วไม่เกิน 48 วัน) ขณะที่พนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาภายในผัดที่ 3 ของการฝากขังผู้ต้องหา ซึ่งคดีนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เพียงแต่ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจพิสูจน์

Advertisement

ทั้งนี้ ผู้ต้องหา 2 ใน 5 คน คือ นายจอแห่ง พนารักษ์ และนายศุภชัย เจริญทรัพย์ ยอมรับว่าเป็นคนลงมือยิงเสือ ส่วนอีก 3 คน คือ นายกูกือ ยินดี, นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ และนายโชเอ รับสารภาพว่า ภายหลังจากนายจอแห่ง และนายศุภชัย ยิงเสือจนตายเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 3 คนได้ร่วมกันลากซากเสือของกลางไปทำการชำแหละ

ส่วนการตรวจหาคราบเขม่าดินปืนที่มือของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน อาจจะไม่พบร่องรอยของเขม่าดินปืนแล้ว เนื่องจากเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. โดยเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 ม.ค. และเจ้าหน้าที่ตำรวจไปควบคุมตัวผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งผ่านไปนานหลายวันแล้ว

กรณีที่อาวุธปืน 1 ใน 4 กระบอกของกลางที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นของทางราชการนั้น ในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานขอข้อมูลกับทางอำเภอ เพื่อขอทราบเส้นทางที่มาที่ไปของอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวว่าไปตกอยู่ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร และได้มอบให้กับผู้ใดครอบครองไว้ แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็จะต้องเชิญตัวผู้ครอบครองมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป

ขณะที่ นายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ เผยถึงกรณีที่มีอาวุธปืนของทางราชการเป็น 1 ในจำนวนของกลางในการกระทำผิดในคดีล่าเสือโคร่ง ว่าตนได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านไปแล้วว่าสัปดาห์หน้าให้นำอาวุธปืนที่ได้รับจากอำเภอ รวม 111 กระบอก มาทำการตรวจสอบทั้งตัวปืนและผู้ถือครอง รวมทั้งเอกสารต่างๆ ด้วย เพื่อทำทะเบียนประวัติใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องก่อนจะทำการส่งมอบอาวุธปืนดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีที่อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน 1526415 ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางผู้ต้องหาอ้างว่ายืมมาจาก นายบุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่ อปพร. โดยทราบว่า ทางคณะกรรมการได้ทยอยเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว อาทิ ผู้ที่มีชื่อในบัญชีถือครอง รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน

ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง และหลังจากที่รับมอบปืนกระบอกดังกล่าวไปแล้ว แล้วมันไปอยู่ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร ทั้งนี้ หากนำอาวุธปืนของทางราชการไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย แต่หากไม่ได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ก็จะต้องทำการเรียกคืนอาวุธปืนตามระเบียบการใช้และการเก็บรักษาอาวุธปืนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ หากนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย

เรื่องนี้จะต้องนำสำนวนของพนักงานสอบสวนมาประกอบด้วย เพราะผู้ต้องหาอ้างว่า หยิบยืมมาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม ตนได้เร่งรัดให้คณะกรรมการตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะทราบผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่วานนี้ (15 ม.ค.65) พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว สั่งการให้พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิเป็นผัดแรก โดยคัดค้านการประกันตัว แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

ล่าสุด แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่า ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิจารณาให้ประกันตัว 5 นายพรานออกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้วงเงินประกันตัวออกไปคนละ 100,000 บาท แต่ไม่ทราบว่าคนในครอบครัว หรือใครเป็นผู้ประกันให้ หากทราบจะรายงานให้ทราบต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image