หนุ่มใหญ่ถูกวัยรุ่นขับรถปาดหน้า-รุมทำร้าย เหตุห้ามยิงปลาหน้าวัด
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งระบุตามหาชาย 2 ราย ที่ทำร้ายผู้อื่น เนื่องจากโดนตักเตือนไม่ให้ยิงปลาหน้าวัดสุทธาวาส แต่กลับไปทำร้ายผู้หวังดีจนแขนหัก หัวแตก ทั้งนี้ มีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ริมถนนปทุมฯ-ลาดหลุมแก้ว หน้าหมู่บ้านฉัตรไพลิน หมู่ 8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พบนายสมาน ปั้นสุดี อายุ 60 ปี วินมอเตอร์ไซค์ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขี่รถจะมาเข้าวินเห็นคนวิ่งลงมานึกว่าเขาหยอกกัน มีคนนึงเตะ แล้วก็มีคนดึงขึ้น เหมือนกลับไปบนถนน คนเจ็บก็วิ่งไปตาม พอตนมาจอดรถ เขาก็วิ่งมา จึงชะโงกหน้าไปดูเห็นผู้ชายเสื้อเขียวที่หาปลาขับรถออกไป คนเจ็บก็มานั่งตรงวิน จึงโทรแจ้งโรงพักแต่ไม่มีคนรับสาย คนขับรถกระบะอีกคนมาเห็นจึงโทรแจ้งกู้ภัยมาช่วย
นายสมานกล่าวว่า คนตกปลามากัน 2 คน คนหนึ่งตัวเล็ก อีกคนตัวใหญ่ คนตัวเล็กเป็นคนห้าม ส่วนคนตัวใหญ่เป็นคนเตะ ตนเห็นไกลๆ นึกว่าเขาล้อเล่นกัน ตอนที่คนเจ็บเล่าให้ฟังว่ากำลังขับรถขึ้นสะพานมา แล้วฝั่งคนหาปลาก็มาปาดหน้า เขาเลยวิ่งหนีมาที่วินแต่ล้มก่อนเลยโดนเตะอยู่หน้าวิน ตอนเกิดเหตุที่วินไม่มีใครอยู่เลย ตนมาเจอตอนผู้บาดเจ็บโดนเตะไปแล้ว
จากการสอบถาม น.ส.แก้ว สุขแสง อายุ 46 ปี ทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บคือ นายธวัชชัย กัลยาสิริกุล อายุ 47 ปี เป็นสามีของตน มีอาชีพเปิดร้านส้มตำไก่ย่าง ก่อนเกิดเหตุได้ให้สามีไปซื้อไก่มาย่างเนื่องจากไก่ที่ร้านหมด ขณะซื้อไก่กลับมาได้ผ่านหน้าวัดสุทธาวาส เลียบคลองชลประทานขุดใหม่ สามีของเห็นชายวัยรุ่นจอดรถจักรยานยนต์อยู่ฝั่งตรงข้าม 2 คน ในมือถือปืนยิงปลา สามีจึงตะโกนบอกว่าหน้าวัดเป็นเขตอภัยทาน อย่ายิงปลาเลย จากนั้นสามีจึงนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปชาย 2 คน ดังกล่าว แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน
น.ส.แก้วกล่าวว่า ขณะขี่รถเข้าหมู่บ้านจู่ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน มาปาดหน้า จากนั้นมีชาย 1 คน ลงมาต่อยที่หัวจนหัวแตก สามีจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือหน้าวินมอเตอร์ไซค์ แต่ล้มลงก่อน และถูกชายคนดังกล่าววิ่งมาเตะ 1 ที จากนั้นก็มีเพื่อนของคนที่เตะเข้ามาห้าม และชวนกันขึ้นรถขี่ไปทางเลียบคลองขุดใหม่มุ่งหน้าคลองเจ๊ก
น.ส.แก้วกล่าวอีกว่า ภายหลังกู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล พบว่าแขนขวาหัก หัวแตกเย็บ 15 เข็ม และมีรอยแผลถลอกตามขาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
